KANSAI ไปไหนไปกัน - วันเดียว เกียวโต (ONE DAY IN KYOTO)
"KYOTO (เกียวโต)"
เมืองวัดสวย เด็กวัดดี ของกินอร่อย แต่พ่อค้าน่าอร่อยกว่า 😆
วันสุดท้ายของการมาเยือนญี่ปุ่นรอบนี้
เรามาอยู่ที่เมืองเกียวโต วันเดียวในเกียวโตและวันสุดท้ายในญี่ปุ่น
แพลนวันนี้ เราจะไปเที่ยววัดสวยในเกียวโตกัน
เพื่อความสะดวกในการเที่ยว หลังจาก Check Out ที่พักแล้ว เราก็มาฝากกระเป๋าที่ Locker ในสถานีเกียวโตก่อน
เพราะขากลับเราจะนั่งรถไฟ HARUKA (ฮารุกะ) ไปสนามบินกัน ซึ่งก็ต้องกลับมาขึ้นที่นี่
ฝากกระเป๋าเสร็จ รีบจับรถไฟไปอาราชิยามะกัน บ้านไกล เวลาน้อย
แล้วที่เที่ยวในเกียวโตแต่ละที่ห่างกันเหลือเกิน สำหรับการเที่ยววันเดียวนับว่าโหดมาก
เมื่อเวลามีน้อยเลยเลือกที่ที่อยากไปจริง ๆ อย่างป่าไผ่ที่อาราชิยามะ วัดน้ำใส และ ศาลเจ้าจิ้งจอกขาว
ARASHIYAMA (อาราชิยามะ)
จากสถานีเกียวโตเราเลือกใช้รถไฟ JR สาย San-In (ซันอิน) ไปลงที่สถานี Saga-Arashiyama (ซากะ-อาราชิยามะ) เพราะดูจาก Google map แล้วเส้นทางนี้ใช้เวลาน้อยสุด
มีอีกหลายเส้นทางให้เลือกใช้นะ แล้วแต่ความเหมาะสมของทริปแต่ละคน
"อาราชิยามะ" มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมติดอันดับต้น ๆ สำหรับผู้คนที่มาเที่ยวเมืองเกียวโต และเหมาะมากสำหรับสายชิล
แต่วันนี้เราไปแค่ ถนนป่าไผ่ กับ ศาลเจ้าโนโนะมิยะ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน
เมื่อถึงที่สถานีซากะ-อาราชิยามะ เราสามารถเดินทางไปยังถนนป่าไผ่และศาลเจ้าโนโนะมิยะได้ 3 ทาง
เดินทางโดยรถไฟก็จะได้ชมวิวสวย ๆ ส่วนหนึ่งที่เขาเรียกว่า "รถไฟสายโรแมนติก" ที่ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว
หยุดวันพุธ (แต่ถ้าตรงกับวันหยุดแห่งชาติของญี่ปุ่น หรือ ช่วง Golden Week ปลายเดือน เม.ย. – ต้น พ.ค. ของทุกปี ก็จะมีการเดินรถปกติ)
การเช่าจักรยานก็ดูสนุกดีนะ ได้ปั่นไปรอบ ๆ อาราชิยามะชมบรรยากาศชิลล์ ๆ รอบ ๆ เมืองก็ประหยัดเวลาแล้วก็ได้บรรยากาศอีกแบบ
9:00 - 17:00 น. (เปิดให้เช่้่าถึง 15:00 น. และ ส่งคืนจักรยานได้ถึง 17:00 น.)
ค่าเช่า จักรยาน 1,000 ¥ ต่อวัน 1,600 ¥ สำหรับการเช่าข้ามคืน
ค่าเช่า จักรยาน 1,000 ¥ ต่อวัน 1,600 ¥ สำหรับการเช่าข้ามคืน
ค่าเช่า Electric Bicycle 1,700 ¥ ต่อวัน
ค่าเช่า จักรยานเด็ก 800 ¥ ต่อวัน
*มีรถวีลแชร์ให้ยืมฟรี
หรือสุดท้ายใครจะเลือกทางเท้าเดินเอาชิลล์แบบเราก็ได้นะ ประหยัดและได้เดินดูบ้านคนไปเรื่อย ๆ ดูวิถีของคนที่นี่
เจอร้านเล็ก ๆ ก็ลองแวะชิมลองขนมปลา ทำตัวเป็นคนท้องถิ่นดูสักหน่อย
พอเดินมาถึงบริเวณหน้าทางเข้าไปถนนป่าไผ่ก็มีร้านอาหารร้านขนมหน้ากินอีกเพียบเลย
NONOMIYA JINJA SHRINE (ศาลเจ้าโนโนะมิยะ)
https://goo.gl/maps/PQJxtCudaM4u6bub8
http://www.nonomiya.com/eng.html
9:00 - 17:00 น.(ตัวศาลเจ้าเข้าไปขอพรได้ถึง 16:00 น.)
ศาลเจ้าขวัญใจสาว ๆ เพราะที่นี่เลื่องลือเรื่องการขอคู่และขอให้สอบผ่าน ซึ่งจริง ๆ แล้วที่นี่มีเทพเจ้าคอยคุ้มครองดูแลอยู่หลายองค์ทีเดียว
http://www.nonomiya.com/eng.html
9:00 - 17:00 น.(ตัวศาลเจ้าเข้าไปขอพรได้ถึง 16:00 น.)
ศาลเจ้าขวัญใจสาว ๆ เพราะที่นี่เลื่องลือเรื่องการขอคู่และขอให้สอบผ่าน ซึ่งจริง ๆ แล้วที่นี่มีเทพเจ้าคอยคุ้มครองดูแลอยู่หลายองค์ทีเดียว
ศาลเจ้าหลัก
เทพ Nonomiya (เทวีสุริยา Amaterasu อามะเทราสึ มหาเทวีแห่งพระอาทิตย์ )
เทพ Nonomiya (เทวีสุริยา Amaterasu อามะเทราสึ มหาเทวีแห่งพระอาทิตย์ )
สวนศาลเจ้า
ศาลเจ้าด้านขวา
・เทพ Atago (ผู้พิทักษ์แห่งไฟและชัยชนะ)
ศาลเจ้าด้านซ้าย
・เทพ Shiramine Bezaiten (ผู้พิทักษ์ศิลปะ)
・เทพ Shirafuku Inari (ผู้พิทักษ์การคลอดบุตรและธุรกิจ)
・เทพ Ooyama Bezaiten (ผู้พิทักษ์การเดินทางและความร่ำรวย)
・เทพ Nonomiya Daikokuten (ผู้พิทักษ์แห่งการแต่งงาน)
・เทพ Shirafuku Inari (ผู้พิทักษ์การคลอดบุตรและธุรกิจ)
・เทพ Ooyama Bezaiten (ผู้พิทักษ์การเดินทางและความร่ำรวย)
・เทพ Nonomiya Daikokuten (ผู้พิทักษ์แห่งการแต่งงาน)
โดยเส้นทางที่เราใช้เราจะผ่านศาลเจ้าโนโนะมิยะก่อนจะถึงป่าไผ่ เลยแวะสักการะก่อน
ล่ำลือกันว่าคนโสดถ้าอยากมีคู่ครองก็ต้องมาขอพรที่นี่ ส่วนคนที่มีคู่ก็จะมาขอให้ความรักราบรื่น
รวมไปถึงการขอลูกและขอพรให้ลูกที่กำลังจะคลอดนั้นปลอดภัยและเป็นคนเก่ง
อีกหนึ่งเรื่องที่เขานิยมขอพรกันมาก ๆ คือมาขอให้สอบผ่าน
นอกจากนี้ยังมี "หินเต่า" ที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งหากขอพรกับเทพเจ้าแล้ว
มาลูบหินนี้พรที่ขอก็จะเกิดขึ้นภายใน 1 ปี ซึ่งอย่าลืมไปก่อนนะว่าขออะไรไว้
ทางขวาของศาลมีสวนมอส มีสะพานเล็ก ๆ ดูสบายตาดี
คุณพระช่วยไม่น่าเชื่อ ไม่ต้องรอถึงหนึ่งปี เนื้อคู่ก็มาแล้ว เดินต่อมาแค่นิดเดียวเอง 😍
ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเยี่ยมเยียนศาลเจ้าและวัดที่ญี่ปุ่นคือการเลือกซื้อ "โอะมะโมะริ" (Omamori) หรือ เครื่องราง ที่ทางวัดจำหน่ายให้กับผู้ที่เดินทางมาสักการะศาลเจ้า
เพื่อเป็นสิริมงคลและส่งเสริมให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น ในแต่ละด้านและเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป เมื่อพกติดตัว
และการเสี่ยงเซียมซีญี่ปุ่นที่เรียกว่า "โอะมิกุจิ" (Omikuji) หากแปลตรงตัวก็จะมีความหมายว่า “สลากศักดิ์สิทธิ์”
ที่ศาลเจ้านี้ให้หยอดเหรียญ 100 ¥ แล้วสุ่มหยิบคำทำนายจากกองโอะมิกุจิขึ้นมา 1 ใบ
สลากที่นี่มี 2 ภาษา ด้านหนึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น อีกด้านเป็นภาษาอังกฤษ
“โอะมิคุจิ (Omikuji)” หรือ “เซียมซีญี่ปุ่น”วันนี้เราจะตะลุยวัดและศาลเจ้า ซึ่งแต่ละวัดก็จะมีทั้งเครื่องรางและใบเซียมซี เลยเอาข้อมูลที่หามามาแชร์กัน
"โอะมิคุจิ" หรือ "เซียมซีญี่ปุ่น" จะมีค่าธรรมเนียมในการเสี่ยงเซียมซีหรือโอะมิคุจิแตกต่างกันไปตามวัดและศาลเจ้าแต่ละแห่ง
แต่โดยมากมักอยู่ที่ประมาณ 100 – 200 ¥
โดยแต่ละวัดหรือศาลเจ้าจะมีวิธีที่แตกต่างกัน
・บางที่จะใช้กล่องทรงสี่เหลี่ยมหรือทรงกระบอก ที่บรรจุ “มิคุจิโบ
(Mikuji-bo) ” หรือแท่งเซียมซีไว้ภายใน โดยนำมาเขย่า แล้วจึงไปรับใบคำทำนาย
・บางที่ให้สุ่มหยิบคำทำนายจากกองโอะมิกุจิ
・บางที่ใช้วิธีในการหยอดเหรียญเพื่อรับคำทำนาย
・บางที่ใช้วิธีนำตุ๊กตาผูกคู่กับโอะมิกุจิและจำหน่ายในราคาต่าง ๆ โดยเราสามารถเลือกตุ๊กตาหรือโอะมิกุจิที่เราถูกใจเพื่ออ่านคำทำนาย และได้รับตุ๊กตากลับบ้านไปด้วยเป็นของที่ระลึก
ใบเซียมซีจะทำนายอนาคตของเราในภาพรวม บนหัวสลากจะมีกำกับผลการทำนายภาพรวมไว้ บางที่แบ่ง 7 ระดับ บางที่แบ่งเป็น 12 ระดับ ตามที่ได้ข้อมูลมาดังนี้
1.ไดคิจิ (大吉, โชคดีมาก)
2.จูคิจิ (中吉, โชคดีปานกลาง)
3.โชคิจิ (小吉, โชคดีเล็กน้อย)
4.คิจิ (吉, โชคดี)
5.ฮังคิจิ (半吉, โชคดีครึ่งนึง)
6.ซุเอะคิจิ (末吉, โชคดีตามกรรม)
7.ซุเอะโชคิจิ (末小吉 , โชคดีเล็กน้อยในอนาคต)
8.เคียว (凶, โชคร้าย)
9.โชเคียว (小凶, โชคร้ายเล็กน้อย)
10.ฮังเคียว (半凶, โชคร้ายครึ่งนึง)
11.ซุเอะเคียว (末凶, โชคร้ายตามกรรม)
12.ไดเคียว (大凶, โชคร้ายมาก)
เมื่อได้อ่านใบเซียมซีแล้ว ถ้าเราโชคดีเราก็จะต้องนำใบเซียมซีติดตัวกลับบ้านไปด้วย เพื่อให้โชคดีนั้นอยู่กับตัวไปนาน ๆแต่หากโชคร้ายก็ให้ผูกใบเซียมซีไว้บริเวณที่ทางวัดหรือศาลเจ้านั้น ๆ กำหนดไว้ให้ ซึ่งแต่ละที่ก็จะสังเกตได้ไม่ยาก
Cr : https://www.jnto.or.th/newsletter/omikuji/
Cr : https://www.jnto.or.th/newsletter/omikuji/
Arashiyama Bamboo Forest (ถนนป่าไผ่)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนชื่นชอบมาถ่ายภาพมากที่สุดอีกแห่งในเกียวโตกับถนนป่าไผ่ในอาราชิยามะ
ด้วยบรรยากาศร่มรื่น เหมือนเดินหลงอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไผ่ที่สูงตระหง่าน 2 ข้างทาง ดูสวยงามมาก ๆ
ระหว่างทางช่วยคนอื่นเขาถ่ายรูปกลุ่มบ้าง ฝรั่งอาสาช่วยถ่ายรูปให้เราบ้าง ก็เป็นอีกหนึ่งความรู้สึกดี ๆ ที่เก็บเกี่ยวได้ระหว่างทาง
หรือใครอยากนั่งรถลากทัวร์ผ่านป่าเพื่อเก็บเป็นประสบการณ์ก็ดูน่าสนุกไม่น้อย
เราสามารถเจอคนลากรถเข็นได้ที่หน้าศาลเจ้าโนโนะมิยะ
ราคาก็ขึ้นอยู่กับเวลาและเส้นทางที่เราจะไปอยู่ที่ประมาณ 2,000 ¥ - 7,000 ¥
เดินเลยไปถึง วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) และสถานีรถไฟอาราชิยามะ โทโรคโคะ (Arashiyama Torokko Station)
ตอนแรกก็คิดว่าอยากจะขึ้นรถไฟกลับ แต่พอเห็นคนเยอะแล้วเปลี่ยนใจ เดินกลับดีกว่า
จาก ARASHIYAMA (อาราชิยามะ) กลับไปที่ Kyoto Station (สถานีเกียวโต)
6.00 น. - 18.00 น. (เปิดถึง 18.30 น. ในวันสุดสัปดาห์และวันหยุดเทศกาล ตั้งแต่กลางเมษายนจนถึงกรกฎาคม และทุกวันในเดือนสิงหาคมและกันยายน)
เทศกาลประดับไฟฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง
ช่วงเทศกาลฮานาโทโร่ เปิดให้บริการเวลา 18.00 น. ถึง 21.00 น. ในประมาณกลางเดือนมีนาคม
ช่วงเทศกาลฮานาโทโร่ เปิดให้บริการเวลา 18.00 น. ถึง 21.00 น. ในประมาณกลางเดือนมีนาคม
ต่อรถเมล์ที่สถานีเกียวโตที่รอรถบัสชานชาลา D
ขึ้นสาย 100 หรือ 206 จริง ๆ สามารถขึ้นได้อีกหลายสายแต่คิดว่า 2 สายนี้ น่าจะเร็วสุดจากสถานีเกียวโต
เราขึ้นสาย 206 ใช้บัตร KANSAI THRU PASS ได้ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ราคาค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 230 ¥ เด็ก 120 ¥
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที
ลงรถที่ป้าย Gojo-zaka (โกโจ-ซากะ) หรือ Kiyomizu-michi (คิโยมิซึ-มิชิ)
จากนั้นเดินขึ้นเนินเข้าสู่วัดโดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
หรือถ้าใครเดินมาจาก Kiyomizu-Gojo Station (สถานีคิโยมิซึ-โกโจ) ก็จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที
แต่ในความจริงนั้น...
กว่าจะเดินถึงวัดก็ถูกดักด้วยร้านค้าต่าง ๆ ที่ตั้งเรียงอยู่ 2 ข้างทาง “ถนนสายกาน้ำชา” หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Go-Jo zaka (โก-โจ ซากะ)
ทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของฝาก ของที่ระลึกน่ารัก ๆ เยอะมากตลอดสองข้าง ทั้งดึงดูด ทั้งละลายทรัพย์ ยั่วใจเหลือเกิน
ฉันรักโดราเอมอน ฉันรักเนื้อย่าง เนื้อย่างคือดี แค่นี้ก็อร่อยแล้ววว
วัดคิโยะมิซุ หรือที่คนไทยเรียกว่า “วัดน้ำใส” ซึ่งเป็นคำที่แปลตรงตัว โดยชื่อมาจากน้ำตกโอโตวะ ที่ใสสะอาดและเป็นไฮไลท์ของการมาที่วัดนี้ด้วย
วัดคิโยะมิซุ สร้างขึ้นจากไม้เกือบทั้งหมด อายุกว่า 1,500 ปี และได้รับเป็นมรดกโลกในปี 1994
และตอนที่เราไป
เดือนกรกฎาคม 2562 ต้องเรียกว่าประเทศญี่ปุ่นบูรณะวัดและสถานที่ท่องเที่ยว
เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020
ตัวอาคารไม้ก็กำลังบูรณะเช่นกัน
บรรยากาศถึงจะอยู่ในการบูรณะแต่ผู้คนก็ยังมาเยี่ยมกันอย่างหนาแน่น
ก่อนเข้าพระอารามหลัก อย่าลืมล้างมือตามธรรมเนียมก่อนเข้าพระอาราม รายละเอียดอื่นดูเพิ่มเติมได้จากเว้บไซต์ของทางวัดได้เลย https://kiyomizudera.or.jp/en/pray/
เข้าไปที่พระอารามหลัก ภายในประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์คันนอน (Kannon) หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางสิบเอ็ดพักตร์หนึ่งพันกร เป็นที่สักการะของผู้ที่มาเยี่ยมเยือนวัดแห่งนี้
ภาพจาก : https://kiyomizudera.or.jp |
ที่วัดคิโยะมิซุมีการธูปเพื่อให้จุดบูชา ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นจะมีเฉพาะบางวัดเท่านั้น
ซื้อธูปในราคา 10 ¥ แล้วใช้มือขวาถือธูปเพื่อจุดกับเทียนจุดไฟซึ่งมีไว้บริการ
ถือธูปอย่างตั้งใจ ระวังอย่าให้ดับ จากนั้นปักธูปลงในกระถางเพื่อเป็นการสักการะบูชา
"โอะมิกุจิ" (Omikuji) หรือเซียมซีของที่นี่เป็นกล่องทรงกระบอก ที่ใส่ “มิคุจิโบ (Mikuji-bo) ” หรือแท่งเซียมซีไว้ข้างใน มีรูเล็ก ๆ แค่พอให้ไม้เซียมซีหล่นออกมา
เมื่อนำมาเขย่าเสร็จ เราก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่วัดดูแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จะยื่นใบคำทำนายให้
วิวจากระเบียงพระอารามที่มองเห็นด้านล่าง มองเห็นน้ำตกโอโตวะ
OTOWA NO TAKI (น้ำตกโอโตวะ)
น้ำตกโอโตวะ อยู่ด้านล่างของของศาลาวัดน้ำใส ที่มาของชื่อวัด ”น้ำใส” มาจากสายน้ำ 3 สายที่ไหลมาจากน้ำตกโอโตวะนี้
ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่านี่คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ถ้าใครได้ดื่มน้ำใสที่วัดคิโยะมิซุ จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ โดยสายน้ำ 3 สาย มีความศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันออกไป
・น้ำสายที่ 1 เรื่องการศึกษา
・น้ำสายที่ 2 เรื่องความรัก
・น้ำสายที่ 3 เรื่องสุขภาพและมีอายุยืนยาว
・น้ำสายที่ 2 เรื่องความรัก
・น้ำสายที่ 3 เรื่องสุขภาพและมีอายุยืนยาว
ซึ่งส่วนมากผู้คนก็นิยมดื่มทั้ง 3 สายรวมกัน
ขั้นตอนในการดื่มน้ำ
・รองน้ำด้วยกระบวยเท่านั้น นำกระบวยเข้าฆ่าเชื้อโรคในเครื่องฉายรังสี Ultraviolet Sterilizer
Haraedo no Okami (เทพฮาราเอะโดะ โนะโอคามิ)
อันนี้คือ Plan ที่วางไว้ Download ไปลองดูได้นะคะ
เผื่อเป็นแนวทางได้ หรือลองเอาไปปรับใช้ก็ได้นะคะ
KIX 6D5N PLAN [PDF]
KIX 6D5N PLAN [WORD]
・รองน้ำด้วยกระบวยเท่านั้น นำกระบวยเข้าฆ่าเชื้อโรคในเครื่องฉายรังสี Ultraviolet Sterilizer
・หากต้องการนำน้ำกลับบ้าน หรือต้องการกระบวยส่วนตัว ให้ซื้อกระบวยของทางวัดราคาประมาณ 300 ¥
JISHU-JINJA (ศาลเจ้าจิชู)
นอกจากการดื่มน้ำใสแล้ว เดินต่อมาทางด้านหลังจะเป็นศาลเจ้าจิชู อีกหนึ่งสถานที่ที่เลื่องลือกันเรื่องขอพรความรัก
ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพโอคุนินุชิโนะ มิโกโตะ (Okuninushino Mikoto) ซึ่งเป็นเทพแห่งความรักและเนื้อคู่
ภายในศาลเจ้าแห่งนี้มีก้อนหินแห่งความรัก 2 ก้อน ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร
เชื่อว่าหากใครสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนแรก ไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้โดยไม่หลงทิศทาง ก็จะสมปรารถนาในความรัก
Haraedo no Okami (เทพฮาราเอะโดะ โนะโอคามิ)
มีความเชื่อว่าเราต้องเข้าไปสักการะเทพเจ้าด้วยร่างกายและจิตใจที่ไม่สะอาด ดังนั้นหลังจากที่เราชำระล้างร่างกายจากด้านนอกแล้ว
เมื่อมาที่ศาลเจ้าจิชู เราควรมาสักการะเทพฮาราเอะโดะโนะโอคามิก่อน เพื่อที่จะกำจัดความคิดที่ไม่ดีและทำให้มีจิตใจที่สะอาดก่อนที่จะไปสักการะเทพองค์อื่น
เพื่อที่จะกำจัดความคิดที่ไม่ดีและทำให้จิตใจบริสุทธิ์ก่อนเข้าสักการะเทพเจ้า
บริเวณด้านข้างขแงเทพฮาราเอะโดะโนะโอคามิ จะมีตุ๊กตากระดาษราคา 200 ¥ ตั้งอยู่ข้างกับอ่างน้ำ
เขาบอกว่าให้เราเขียนปัญหา สิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ที่เราต้องเจอ ลงบนตุ๊กตากระดาษแล้วเอาไปใส่ในอ่างน้ำ
เมื่อกระดาษจางลงปัญหาของเราก็จะจางหายไปด้วย
Nade daikoku-san (เทพไดโกกุ)
เทพไดโกกุ คือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เทพแห่งความร่าเริง
พระหัตถ์ถือค้อนตะลุมพุก
ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าท่านสั่นตะลุมพุกเมื่อไหร่เงินทองจะไหลมาเทมา
หลังจากที่โยนเหรียญ สั่นกระดิ่งขอพรเสร็จ เราต้องลูบองค์เทพไดโกกุที่ทำจากบรอนซ์ทางด้านซ้าย แล้วพรที่ขอจะเป็นจริง
・ลูบศีรษะจะโชคดีเรื่องการเรียน
・ลูบท้องจะโชคดีเรื่องการตั้งครรภ์
・ลูบมือจะโชคดีในการแข่งขัน
・ลูบเท้าจะโชคดีและปลอดภัยในการเดินทาง
・ลูบท้องจะโชคดีเรื่องการตั้งครรภ์
・ลูบมือจะโชคดีในการแข่งขัน
・ลูบเท้าจะโชคดีและปลอดภัยในการเดินทาง
โอะมิกุจิของที่นี่เป็นแบบสุ่ม หยอดเหรียญ 200 ¥
ตามทางที่จะเดินอ้อมออกไปทางหน้าวัดก็จะมีร้านอาหารเล็ก ๆ ดูน่ารักให้นั่งพักทานอาหารกันด้วย
เดินทางไปศาลเจ้าจิ้งจอกขาวกันต่อ
ถูกป้ายยาโดยร้านขายของฝากอยู่สักพักก่อนที่จะเดินมาถึง จากป้ายรถเมล์ Gojo-zaka (โกโจ-ซากะ)
ขึ้นรถเมล์สาย 207 ใช้บัตร KANSAI THRU PASS ได้ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ราคาค่าโดยสารผู้ใหญ่ 230 ¥ เด็ก 120 ¥
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
ลงรถที่ป้าย Tofukuji (โทฟุคุจิ)
จากนั้นเดินไปที่สถานีรถไฟโทฟุคุจิ (Tofukuji Station)
ลงที่สถานี FUSHIMI INARI (ฟูชิมิอินาริ) ใช้บัตร KANSAI THRU PASS ได้ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม สังเกตง่าย ๆ ว่ามีเสาสีแดงและรูปสัญลักษณ์จิ้งจอกอยู่ที่ต้นเสา
https://goo.gl/maps/LDscak8LRo3r55J1A
http://inari.jp/en/
ค่าเช้าชม Free
Kyoto Station มาลงที่ Inari Station
ใช้รถไฟสาย Keihan Line มาลงที่ Fushimi Inari Station
ใช้รถบัสสาย 5 มาลงที่ป้ายรถเมล์ Fushimi Inari Taisha
http://inari.jp/en/
ค่าเช้าชม Free
Kyoto Station มาลงที่ Inari Station
ใช้รถไฟสาย Keihan Line มาลงที่ Fushimi Inari Station
ใช้รถบัสสาย 5 มาลงที่ป้ายรถเมล์ Fushimi Inari Taisha
มาถึงเกียวโต ถ้าไม่มาถ่ายรูปกับอุโมงค์โทริอิสีแดงที่เรียงต่อกันไปนับหมื่นต้น ที่ศาลเจ้า "ศาลเจ้าจิ้งจอกขาว" คงถือว่าภาระกิจมาเกียวโตจะสำเร็จไปไม่ได้
แถมยังมาพอดีกับช่วงงานเทศกาลโมะโตะมิยะ-ไซ (Motomiya-Sai Festival) เทศกาลใหญ่ประจำฤดูร้อนของศาลอีกด้วย
เพราะนอกจากจะได้เจอกับบรรยากาศแสงและเงาใต้เสาโทริอิสีแดงสวยนับพันต้นแล้ว ยังได้เห็นการประดับโคมสีแดงสดทั้งในโทริอิและรอบ ๆ ศาล ตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าสถานีรถไฟ
ที่สำคัญวันเทศกาลแบบนี้ คนยิ่งเยอะมาก เรียกว่าการถ่ายรูปกับเสาโทริอิสีแดง ยิ่งต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมมาก ๆ ในการถ่ายภาพ
ถ้าอยู่ถึงช่วงเย็นจะได้เห็น การแสดงกลองและการร่ายรำต่าง ๆ ที่หน้าทางเข้าศาล
มีการออกร้าน มีของขายเยอะมาก โดยเฉพาะของกิน มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย
แต่ที่ดีสุดคือพ่อค้าน่ารักมากจ้า ดูเพลินมากจริง ๆ 😍
เทศกาลโมะโตะมิยะ-ไซ (Motomiya-Sai Festival) นี้จะจัดช่วงปลายเดือนกรกฎาคมของแต่ละปี
สามารถเช็ควันจัดงานได้จากสื่อต่าง ๆ ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เช่น
เว็บไซต์ของ
Discover Kyoto
ได้เวลากลับบ้านแล้วจ้ะ กลับไปสถานีเกียวโตซื้อตั๋วรถไฟฮารุกะ (HARUKA) ไปสนามบินกัน ได้ขึ้นขบวน KITTY ด้วย น่ารัก
เป็น 6 วัน 5 คืน ที่สนุกมาก ครบทั้งสายกิน สายชิล สายช้อปปิ้ง ทั้งขึ้นรถไฟ ล่องเฟอร์รี เช่ารถขับ เก็บประสบการณ์กลับไปเยอะเลย ที่สำคัญที่สุด คือ ความญี่ปุ่น
"อิจิโกะ อิจิเอะ (一期一会)"
หมายถึง
การเจอกันหนึ่งครั้ง โอกาสหนึ่งหน
การดูแลและการบริการเสมือนมีโอกาสเจอกันเพียงครั้งเดียว ทำให้การเจอกันในทุกครั้งประทับใจเสมือนเป็นหารเจอกันครั้งเดียวในชีวิต
ความญี่ปุ่นนี้ ที่น่ารักและประทับใจมาก ๆ
ความญี่ปุ่นนี้ ที่น่ารักและประทับใจมาก ๆ
さようなら (ซาโยนะระ)
またね (มาตาเนะ)
รู้แล้วว่าทำไมใคร ๆ ก็รักญี่ปุ่น
😊
😊
อันนี้คือ Plan ที่วางไว้ Download ไปลองดูได้นะคะ
เผื่อเป็นแนวทางได้ หรือลองเอาไปปรับใช้ก็ได้นะคะ
KIX 6D5N PLAN [PDF]
KIX 6D5N PLAN [WORD]
คันไซ
เที่ยวคันไซ
เที่ยวญี่ปุ่น
อาหารญี่ปุ่น
bittersweettravel
Japan
japanesefood
Japan Travel Guide
Kansai
KIX
0 Comments