"ศัลยกรรม" ใช่วันนี้จะมารีวิวเรื่องศัลยกรรมจากที่เคยเขียนแต่รีวิวท่องเที่ยว
"จมูก" น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำศัลกรรมของใครหลาย ๆ คน
"ศัลยกรรมจมูก" และนี่คือการทำศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตของเรา
"WONJIN THAILAND" คือสถานที่อัพเลเวลจมูกให้เราในครั้งนี้
"WONJIN" เป็นศูนย์บริการด้านศัลยกรรมและความงามจากประเทศเกาหลีอีกแห่ง ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันคนไทยหลายคนตัดสินใจเดินทางไปเกาหลีเพื่อทำศัลกรรม ในทางกลับกันสถาบันความงามของเกาหลีหลายก็เริ่มกระจายสาขามายังประเทศไทย
เพื่อให้คนไข้ควบคุมงบประมาณได้ง่ายกว่า คนทำงานก็ไม่ต้องลางานไปเป็นอาทิตย์ ใกล้ชิดแพทย์มากกว่าในกรณีที่เกิดปัญหา และคุยกับคนไทยด้วยกันเองยังไงก็สื่อสารกันง่ายกว่า
ก่อนการทำหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ
"อยากทำจมูกไปเพื่ออะไร?" เพราะรพ.ศัลยกรรมแต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน
ถามเหมือนกวนนะ แต่เป้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จุดที่ตัวเองไม่พอใจคืออะไร หรืออยากสวยเหมือนไอดอลของตัวเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตก็ว่ากันไป
คำตอบสำหรับตัวเอง คือ ไม่ได้อยากได้จมูกที่เหมือนคนอื่น ไม่ได้อยากเหมือนดาราคนไหน แค่อยากทำเพื่อตัดรำคาญจะได้เลิกล้อว่าไม่มีดั้งกันสักที ซึ่ง WONJIN มีคำหนึ่งที่ตอบโจทย์มากคือ “การศัลยกรรมจมูกของวอนจิน เราเน้นความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะคุณ สวยสมดุลรับกับใบหน้า”
น้องที่รู้จักกันที่เป็นคนแนะนำ WONJIN ให้รู้จักน้องก็เล่าให้ฟังว่าหมอและพยาบาลต้องไปเทรนด์ที่เกาหลีอยู่แล้ว แล้วหมอที่เกาหลีก็จะมาดูงานถ้ามีเทคนิคใหม่ ๆ เขาก็จะมาเทรนด์ต่อกัน ส่วนหมอคนไทยที่นี่ก็ต้องเลือกหมอที่มีประสบการณ์สูงมาเทรนด์อยู่แล้ว แล้วเอาจริง ๆ เรื่องฝีมือหมอไทยก็เก่งไม่แพ้เกาหลีนะ
ก่อนการทำศัลยกรรมทางรพ. เขาก็จะบอกชื่อคุณหมอให้เรารู้ก่อน คุณหมอที่จะทำให้เราชื่อ "คุณหมอโฮป" นายแพทย์อธิคม ถนัดพจนามาตย์ อย่างแรกพอได้ยินชื่อหมอก็ Search เลยค่ะ ผลที่ได้ออกมาสรรพคุณเต็มหน้าฟีด คนที่เคยทำกับหมอโฮปเยอะมาก การันตีทั้งฝีมือที่มีประสบการณ์หลายหมื่นชั่วโมงและหน้าตา หมายถึงหน้าตาหมอนะ มีคนที่เคยทำศัลยกรรมกับหมอบอกว่าหมอหน้าตาดี ฮ่า ๆ
ก่อนการทำก็จะมีการพูดคุยกับทีมงาน ซึ่งคนนี้จะเป็นเหมือนคู่พาร์ทเนอร์เราที่จะดูแลให้คำแนะนำเราเบื้องต้น การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรม ไปจนถึงหลังผ่าตัดเสร็จ สารภาพว่าการทำศัลยกรรมครั้งแรกมันจะมีเรื่องกังวลจิตตกเยอะมาก ตัวเรานี่ก็จะโทรหาที่ WONJIN ตลอดเลย นิดหน่อย มีอะไรไม่สบายใจโทรตลอด ซึ่งทางทั้งทีมงาน คุณพยาบาล เขาเข้าใจ ใจเย็น และพยายามทำให้เรารู้สึกสบายใจที่สุดอ่ะ ซึ่งอันนี้สำหรับเรามันโอเคมาก ๆ
หลังจากที่พูดคุยกับทีมงานเสร็จทางทีมงานก็จะให้เราลองเตรียมรูปภาพจมูกแบบที่เราอยากได้ไว้ให้คุณหมอดู ซึ่งเรายังคงเจตนาเดิมว่า ไม่ได้อยากเหมือนใคร แต่ทีมงานเขาก็ขอให้เตรียมไว้เอาเป็นไกด์ ๆ ให้คุณหมอดูหน่อย
และแล้วเราก็ได้พบกับคุณหมอโฮป (หมอน่ารักกว่าในรูปที่ Search เจออีกอ่ะ เข้าใจแล้วว่าทำไมคนรีวิวก่อนหน้าถึงบอกว่าเขินหมอมาก เราก็แอบเขินว่ะ ฮ่า ๆ) คุณหมอเขาก็จะมาดูรูปทรงจมูกเรา แล้วก็ถามเราก่อนว่าเราชอบทรงแบบไหน ซึ่งเราก็เอารูป จวนจีฮุน ให้หมอดู แต่ก็บอกหมอว่า เอาที่หมอคิดว่าเข้ากับหน้าเราไม่ได้เน้นว่าต้องโด่งมาก เพราะจมูกโด่ง ๆ มันไม่ได้ตอบโจทย์กับหน้าของทุกคนหลอก
จากนั้นคุณหมอก็จะวาดภาพให้ดูคร่าว ๆ ว่าเดี๋ยวจะทำออกมาในรูปแบบไหน โอเคไหม? ซึ่งเราก็เชื่อว่าถ้าหมอบอกว่าสวย เราก็เชื่อว่าสวย ต่อจากนั้นคุณหมอก็จะอธิบายวิธีการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบผ่าเปิด (Open Rhinoplasty) เอาจริง ๆ ตัวเองไม่ได้มีความรู้มาก่อนว่าที่อื่นเขาผ่ากันแบบไหน ที่พอเข้าใจคือเป็นการผ่าตัดเปิดเนื้อจมูกขึ้น ซึ่งข้อดีของการผ่าแบบโอเพนคือจะช้ำน้อยมาก แล้วคุณหมอก็จะตัดปีกจมูกของเราเพิ่มเพื่อให้รูปจมูกสวยขึ้น แล้วก็เอากระดูกอ่อนหลังใบหูมาเสริมด้วย
จริง ๆ แล้วการสอบถามข้อมูลควรถามให้ละเอียดสุด ๆ แต่... เราแทบไม่มีอะไรจะถามเลยอ่ะ หมอว่าไงก็ว่างั้นค่ะ
เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดคุณพยาบาลก็จะบอกการเตรียมตัวมาเบื้องต้น แต่ก่อนหน้าเราก็มีการปรึกษาเพื่อนที่เคยทำ แล้วก็หาข้อมูลตามอินเทอร์เน็ตมาไว้บ้างแล้ว
คุณพยาบาลจะถามก่อนว่ามีโรคประจำตัวไหม? ช่วงนั้นทานยาอะไรบ้าง? เพราะบางตัวอาจมีส่วนทำให้เลือดคลั่งได้
กินวิตามิน ยาบำรุง อะไรตัวไหนบ้างแจ้งเขาให้หมด เพราะบางตัว เช่น น้ำมันตับปลา วิตามิน E อาจทำให้เลือดหยุดไหลช้า
ไม่ควรทำทรีทเมนต์หน้าก่อนทำศัลยกรรม
พยายามอย่าเป็นไข้ น้ำมูกไหล
งดสูบบุหรี่, งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อยก่อนทำศัลยกรรม 1 สัปดาห์
งดของแสลงจำพวกของดอง น้ำอัดลมรวมถึงอาหารทะเล
การเตรียมตัวในวันผ่าตัดทำจมูกแบบ Open
งดอาหารและน้ำ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
ไม่ต้องแต่งหน้าไป ถ้าแต่งไปที่รพ.ก็จะมีคลีนซิงให้ล้างหน้า (เราไม่แต่งไปนะ รู้สึกว่าเปลืองเครื่องสำอาง ฮ่า ๆ)
เสื้อผ้าหลวมๆ ที่ใส่ง่าย ถอดง่าย เอาแบบที่ใส่แล้วจะไม่แน่นโดนจมูกด้วย
เตรียมนัดเพื่อนไปรับกลับบ้านด้วยนะ เพราะต้องดมยาสลบนะจ๊ะ
ของที่ต้องใช้หลังทำจมูก (ชอปปิงรอไว้ได้เลย)
ผ้าเย็น หรือ Cooling Gel
ไม้พันสำลี
หน้ากากอนามัย
ซึ่ง 3 อย่างนี้ที่ รพ. เตรียมไว้ให้บางส่วนแล้วพร้อมกับยา
หมอนรองคอ
แผ่นเช็ดหน้า / ทิชชูเปียก (หลังผ่าล้างหน้าไม่ได้นะจ๊ะ)
ตุนอาหารอ่อนและอาหารลดบวมตามสะดวก เพราะหลังทำศัลยกรรมคุณคงไม่อยากออกจากบ้านแน่ ๆ เพราะลำบากมาก ๆ
อยู่ในห้อง Consult รอพบคุณหมอค่ะ |
และนี่คือประสบการณ์การทำศัลยกรรมครั้งแรกของเราเอง
เริ่มปฏิบัติการ ลุย!!!
เริ่มต้นด้วยการศึกษาการปฏิบัติตัวหลังผ่าเสร็จว่าต้องดูแลตัวเองยังไงจากคุณพยาบาล ที่นี่น้องพยาบาลน่ารักมาก คือเขาจะมีความเข้าใจความรู้สึกว่าคนผ่าตัดครั้งแรกเป็นยังไง จะกังวลอะไรบ้าง 2-3 วันแรกนี่จะหนักหน่อยต้องดูแลตัวเองยังไงบ้าง เราจะได้ไม่ต้องกังวลเกินไป
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าทำความสะอาดจมูกกันอีกสักหน่อย (หลังจากนี้คือเก็บโทรศัพท์เข้าตู้ล๊อคเกอร์ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้แล้วนะ)
ระหว่างนอนรอผ่าตั ดทีมงาน ทีมแพทย์ก็ผลัดกันมาวนมาดู วัดความดัน เจาะเลือด ใส่สายน้ำเกลือ คือที่นี่เขาจะมีเครื่องให้ความอุ่น ไม่รู้ว่าจะเรียกเจ้าเครื่องนี้ว่าอะไร แต่รู้สึกถึงมันคือความใส่ใจอ่ะ มันจะทำให้ตัวเราอุ่น ๆ ทำให้หาเส้นเลือดง่าย ๆ เจาะเลือดง่าย ๆ ไม่ต้องเจ็บตัวหลายรอบ หลังจากนั้นคุณพยาบาลจะคอยวนมาถามตลอดหนาวไปไหม ร้อนไปรึเปล่า
สักพักคุณหมอก็จะมาวัดซิลิโคน ภาพตอนนั้นคือ ความรู้สึกเราทำครั้งแรกมันตื่นเต้นมาก กังวลมาก แอบกลัวนู่นนี่ไปหมด ตัดภาพไปที่คุณหมอข้าง ๆ คุณหมอแกนั่งเหลาซิลิโคน ฮัมเพลงสบายใจมากอ่ะ (มันใช่เหรอหมอ) คุณหมอแกดูชิล ๆ ดูทำง่ายเหมือนนั่งเหลาดินสอ พอคุณหมอเหลาซิลิโคนเสร็จลองมาทาบดูเป็นอันเสร็จ หมดเวลาเตรียมใจ ต่อไปคือเข้าห้องปฏิบัติการของจริง
ณ ห้องผ่าตัด
ขั้นแรกให้ยาชา ที่นี่เขาจะให้ยาชาผ่านสายน้ำเกลือ ตอนแรกคุณพยาบาลบอกมันจะรู้สึกแสบร้อนหน่อยนะ แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกมากขนาดนั้น ทีมแพทย์คนอื่น ๆ ก็ชวนคุย เช็คสติไปเรื่อย ๆ แล้วก็ถึงเวลาดมยาสลบหายใจเข้าออกลึก ๆ นับ 1 - 5 ภาพก็ตัดไป...
2 ชม. ผ่านไปโดยประมาณ...
รู้สึกตัวลืมตาตื่นมาอีกทีทุกอย่างเสร็จแล้ว หายใจไม่ค่อยออกเพราะมีผ้าก็อตอุดจมูกอยู่ ระหว่างนั้น คุณหมอกรณ์ (คนนี้หล่อแบบพ่วงท้ายด้วยตำแหน่งหนุ่ม CLEO และ Men's Health ค่ะ) คุณหมอแวะมาดูอาการหลังการผ่าตัดว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม คุณหมอที่เป็นวิสัญญีแพทย์ก็แวะมาดูอาการ ทุกคนให้กำลังใจมาก บอกว่าเห็นในห้องผ่าตัดแล้ว ทรงจมูกสวยมาก เชื่อใจหมอได้ถ้าไม่สวยหมอไม่ออกจากห้องผ่าตัด (กด wow ให้คำนี้เลย)
จากนั้นนอนพักให้ฤทธิ์ยาสลบคลายตัวอีกสักชม. โทรตามเพื่อนมารับกลับบ้านได้
คำเตือน
อย่าเคลื่อนตัวเร็วมาก เดี๋ยวล้ม ฮ่า ๆ ๆ เพราะเราเป็นคนทำอะไรเร็ว ปุ๊บปั๊บ พอลุกจากเตียงแทบจะวิ่งได้ แต่ก็แอบเซไปหลายรอบ จนคุณพยาบาลห้องผ่าตัดออกมาประคองแล้วเตือนไม่ให้วิ่ง
หลังออกจากห้องผ่าตัด แต่งตัวเตรียมกลับบ้าน |
ผ้าก็อตปลายจมูกนั่นใส่เองนะ เพราะชอบเอามือไปโดนแล้วมือก็เปื้อน |
ปริมาณยาที่ต้องกินในแต่ละครั้ง |
2 วันหลังการผ่าตัดคือความอึดอัดอย่างที่สุด
หลังจากผ่าตัดต้องหายใจทางปากประมาณ 2 วัน 2 คืน เพราะมีผ้าก็อตอุดจมูกอยู่
ห้ามล้างหน้าให้ใช้ทิชชู่เปียกเช็ด หรือถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ ก็ล้างทีละครึ่งหน้า
นอนหมอนสูง ไม่ต้องถึงกลับนั่งหลับก็ได้ แต่ต้องหายใจทางปากทำให้นอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่
เท่าที่คุยกับคนอื่น ๆ วิธีนี้มันอาจจะดูอึดอัดแต่หน้าแทบไม่มีรอยช้ำเลย
วันนี้มาเอาผ้าก็อตออกค่ะ ตอนเอาออกมันก็จะเสียว ๆ หน่อย |
ต้องใส่เฝือกดามจมูกไว้อีก 1 อาทิตย์เพื่อให้จมูกอยู่ทรง ซึ่งเฝือกคันมาก ๆ
แต่คุณหมออยากให้ใส่ไว้ก่อนเพื่อรักษาทรง คุณหมอดูไม่เข้าใจความทรมานในความคันจมูกของเรา
แต่คุณน้องพยาบาลบอกว่าจริง ๆ หลังเอาผ้าก็อตออก ก็เอาที่ดามจมูกออกได้แล้ว แต่งหน้าได้ปกติ
เพราะคุณน้องพยาบาลก็ทำ เข้าใจว่าผู้หญิงรักสวยรักงาม ไปทำงานก็ต้องอยากแต่งหน้า
ไม่เป็นไรเราควรเป็นคนไข้ที่ดี เราควรเชื่อหมอ แม้มันจะคันมากกกกกกกกกกก็ตาม (แต่ก็แอบเอาออกบ้างตอนที่มันคันมาก ๆ ไม่ไหวจริง ๆ)
ช่วงอาทิตย์แรก ๆ หน้าก็จะบวม ๆ หน่อย หายช้าหายไวก็แล้วแต่คนนะ
ต้องใช้สำลีพันก้านจุ่มน้ำเกลือเช็ดจมูกด้านในจะมีเลือดติด ๆ มาบ้าง แล้วก็จะได้กลิ่นคาว ๆ บ้าง
วันที่ 3-4 หน้าจะบวมมาก แต่ก็กินยาที่คุณหมอให้อย่างต่อเนื่อง
อะไรที่เขาว่ากินแก้บวมได้ก็กินตาม ฝักทอง. ใบบัวบก, สาหร่าย, น้ำมะพร้าว, ถั่วดำ
วันนี้ก็ดูไม่ค่อยบวมแล้วนะ |
ครบ 1 อาทิตย์คุณหมอมานัดตัดไหมรอบแรกค่ะ |
2 อาทิตย์ต่อมา รอตัดไหมด้านในค่ะ |
3 เดือนแรก
คุณหมอจะนัด Follow Up ทุกเดือนนะ มาดูอาการบวม ดูทรงว่าเบี้ยวไหม จมูกเข้าที่หรือยังอะไรประมาณนั้น
ระหว่างทางนั้นเวลาโดนจมูกมันก็จะเสียว ๆ อยู่บ้าง
ไหมที่ใช้เป็นไหมละลาย อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะรู้สึกหายตึงจมูก
อ่อ... อาจจะมีไหมโผล่มาบ้าง ตัดทิ้งเองได้เลย แต่นี่มีแอบกังวลก็ไปให้ที่ WONJIN เอาออกให้ กลัวทำไรผิดพลาดแล้วจมูกเบี้ยว ฮ่า ๆ ๆ
ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 6 เดือนแล้วค่ะ
เพื่อน ๆ หลายคนที่เคยทำบอกว่าจมูกจะเข้าที่จริง ๆ ก็ประมาณ 1 ปีได้
ในการทำจมูกเราจะได้ยินคนบอกว่าสวยอยู่ 2 ครั้ง
ครั้งแรกก่อนทำ สวยอยู่แล้วจะทำทำไม (ไหนใครกันที่ล้อเราไม่มีดั้งสารภาพมาซิ ฮ่า ๆ)
ครั้งที่สองหลังทำ สวยแล้ว หน้าชัดขึ้นมาก แต่ก็จะตามมาด้วย เก็บกรอบหน้าหน่อยสิ ฉีดแฟตไหม ฉีดโบอีกหน่อย บลา ๆ ๆ เดี๋ยววววว พอก่อนนะ ฮ่า ๆ ๆ
สิ่งที่ควรทำหลังทำจมูก
อย่าจับจมูกบ่อย
ห้ามขึ้นมอเตอร์ไซค์เดี๋ยวจมูกสะเทือน
ห้ามใส่แว่นนาน ๆ เดี๋ยวจมูกเสียทรง (แต่ที่เห็นบางภาพใส่เพราะวันก่อนหน้านอนดึก ใส่คอนแทคไม่เข้า)
งดอาหารรสเผ็ด เพราะจะทำให้มีน้ำมูกไหล
งดอาหารเค็ม และอาหารที่เลี่ยน ๆ ในช่วงพักฟื้น เพราะมันอาจทำให้ความบวมลดลงได้ช้าขึ้น
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 1 เดือน หลังทำศัลยกรรม รวมถึงงดการเล่นกีฬาหนัก ๆ
ประคบเย็นบริเวณ หน้าผาก ตา แก้ม โหนกแก้ม เพื่อช่วยลดบวม
อาบน้ำระวังอย่าให้โดนแผล
นอนหนุนหมอนสูงสักสองถึงสามใบ เพื่อให้ความบวมลดลงได้ไวขึ้น
สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้หลังวันที่ตัดไหมแล้ว
อย่าสูดจมูก ล้วง แคะ แกะ เกา เศษต่าง ๆ ในจมูก หรือใช้ไม้คอตตอนบัดแคะจมูก เพราะจะทำให้ระคายเคืองภายในจมูกได้
แต่เอาจริง ๆ แอบใช้คัตตอนบัด แคะตลอดแต่เบามือนะ บางทีมันก็รำคาญขี้มูกอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
หากมีปัญหาหรือรู้สึกผิดปกติ โทรหา รพ. เลยจ้า
ราคา
เสริมจมูก : 150,000 บาท
ตัดปีกจมูก : 45,000 บาท
ราคาอาจจะมีปรับตัวแล้วแต่บุคคล และ Promotion ในช่วงนั้น ๆ นะคะ :)
WONJIN @ Gaysorn
วอนจิน ศัลยกรรมเกาหลี อันดับ 1
ชั้น 10 Gaysorn Urban Retreat, Gaysorn Village
เวลาเปิด-ปิด จันทร์-อาทิตย์ : 10:00-20:00 น.
Tel : 02-023-7049, 097-251-5683
Facebook : https://www.facebook.com/wonjinthailand
Website : https://www.wonjinthailand.com
Line ID : https://goo.gl/SFcFHE