วันอาทิตย์ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐

เวลา ๔ โมงเย็นโดยประมาณ

หลังจากที่ฝนหยุดโปรยปรายลงมา

ข้าพเจ้ากับเพื่อนก็ได้มาเดินเล่นที่นี่









ด้วยเวลาที่เย็นมากแล้วร้านค้าหลายร้านก็เริ่มปิดบานประตู

ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายอาหาร ร้านขายขนมประจำท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น

ตลาดเก่าริมน้ำเริ่มไล่เปลี่ยนฉากเข้าสู่สถานที่แฮงค์เอาท์ยามค่ำคืน




บ้านที่คือบ้านหลังแรกที่ทำให้เราสะดุดตากับรูปภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ติดไว้ ๒ ฝั่งกำแพงบ้าน

นับถอยหลังอีกไม่ถึง ๔ วัน รูปภาพเหล่านี้จะเป็นทั้งความเศร้าโศก เป็นกำลังใจ และเป็นประวัติศาสตร์



เดินเรื่อยไปในชุมชนตลาดเก่าแห่งนี้ ทำให้นึกถึงเวลาไปเที่ยวที่บุกชอนฮานก ประเทศเกาหลี ด้วยความที่ไม่ใช่ทุกบ้านที่อยากอยู่อย่างเก่า ไม่ใช่ทุกบ้านที่ต้อนรับการท่องเที่ยว แต่สิ่งเดียวที่รวมก้อนตลาดเก่าแห่งนี้ไว้ได้คือศิลปะ










เดินเหนื่อย ๆ ก็แวะพักหาขนมทาน
ร้านนี้ชื่อ "ร้าน Sweet @ Moon "




แกลเลอรี่


จากการสังเกตุที่นี่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากตามศาสนสถานที่พอสังเกตได้โดยที่ไม่ได้เปิดตำราประวัติศาสตร์ ทั้งอาหารและขนมแบบจีน ขนมไข่แบบฝาหรั่ง ถ้ามาช่วงกลางวันจะมีร้านระดับตำนานเปิดมากกว่านี้นะ





ร้านค้าโชห่วย

ไอติมระดับตำนาน



มันคือเรื่องราวที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ผู้คนทุกชาติ ทุกศาสนา ทุกเชื้อชาติที่เดินทาเข้ามาอาศัยร่มพระโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย เมื่อมาอยู่บนผืนแผ่นดินไทย เราทุกคนคือคนไทย

เมื่อเดินผ่านบ้านทุกหลังของชุมชนนี้ จึงไม่แปลกใจ ที่จะเห็นรูปในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในทุก ๆ บ้าน และหลายบ้านก็ติดไว้หลายภาพ บางภาพสีของภาพก็ซีดจางไปตามกาลเวลา




คำว่า "ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร" ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นคำที่ลึกซึ้งมากนะ เชื่อว่าไม่ใช่ทุกชาติจะเข้าใจ

แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าทุกชีวิตบนพื้นแผ่นดินไทยนั้นล้วนเข้าใจและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เมื่อเข้าไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่งชื่อ “สบายใจ” พนักงานที่ร้านบอกว่า วันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐
ทุกร้านในชุมชนจะปิด ๑ เพื่อเป็นการถวายความอาลัย พอถึงจุดนี้ก็ไม่ได้แปลกใจ
พอฟังแล้วยิ่งรู้สึกว่าชุมชนนี้น่ารัก น่ารักเพราะความรักที่พวกเขามีต่อในหลวง




ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์

ใครที่สนใจอยากไปเท่าที่นี่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่นะคะ
แฟนเพจ : ชุมชนริมน้ำจันทบูร Chanthaboon Waterfront
https://www.facebook.com/chanthaboonwaterfront