Translate

Sponsor

HONGKONG Lost & Found : ตอนที่ 1 เตรียมตัวเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง


"พี่หวานไปฮ่องกงด้วยกันเถอะ หนูไม่กล้าไปคนเดียว"
 นี่คือจุดเริ่มต้นของการไปฮ่องกงครั้งนี้

ย้อนไปหลายปีก่อนเคยมีโอกาสไปฮ่องกงครั้งแรกและเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เดินทางไปต่างประเทศด้วย จำได้ว่าตอนนั้นไปช่วงตุลาคมถึงจะไม่ใช่ช่วงเทศกาล Sale แต่ของก็ลดเยอะมาก แต่ตอนนั้นไปถ่ายรายการเลยมีเวลาช้อปปิ้ง 2 ชั่วโมงก่อนเดินทางไปสนามบินขึ้นเครื่องกลับ

ครั้งนี้ไปช่วงฮ่องกงลดทั้งเกาะ หรือ Hongkong Summer Sale พอดี ปีนี้ใครตั้งใจจะไปจองตั๋วล่วงหน้าได้เลยปกติอยู่ช่วง ปลายมิถุนายน - สิงหาคม แต่ถ้าจะเอาของถูกจริง ๆ แบบลดแล้วลดอีกลดแบบโล๊ะสต๊อคต้อนรับปีใหม่ก็แนะนำให้ไปช่วงสิงหาคมปลาย ๆ แต่มีคนแอบบ่นหาของหาไซส์ก็อาจจะยากหน่อย

เรื่องการจองตั๋วเครื่องบินและบัตรต่าง ๆ โชคดีที่ว่ากลุ่มน้องที่ไปด้วยทำแพลนเตรียมการไว้หมดแล้ว ซึ่งเราก็ฝากน้องซื้อเพิ่มไปจากงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกครบและประหยัด

เพราะฉะนั้นเรามาเตรียมตัวไปฮ่องกงกันเถอะ ^^

การเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง
สำหรับการไปฮ่องกงครั้งแรกการหาข้อมูลคงไม่ยากเท่าไหร่เพราะไปง่ายรีวิวเพียบ ไปคนเดียวก็สบายหายห่วง โดยเฉพาะเรื่องช้อปปิ้ง เพราะย่านช้อปปิ้งแต่ละที่เดินทางสะดวกสบายมาก แต่ที่ควรเช็คดี ๆ คือสภาพอากาศฟ้าฝนเพราะช่วง Hongkong Summer Sale จะอยู่ในช่วงฤดูมรสุมซึ่งปกติจะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมไปถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเขาก็จะจัดงานลดทั้งเกาะมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวนี่แหละ ส่วนตั๋วเครื่องบินก็ไม่แพงมากเท่าไหร่ยิ่งจองล่วงหน้าราคาสบายกระเป๋ามาก จำได้ว่าตอนไปฮ่องกงครั้งแรกสภาพอากาศค่อนข้างแย่ เครื่องตกหลุมอากาศบ่อยมาก ขนาดไปเครื่องใหญ่การบินไทยยังรู้สึกแรงมาก เนื่องจากว่าก่อนหน้าหนึ่งวันเป็นช่วงที่สนามบินปิดเพราะไต้ฝุ่นเข้าระดับ 8 ซึ่งถือเป็นระดับที่อันตราย ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดทำการและเที่ยวบินต่าง ๆ จะถูกยกเลิก

บัตรท่องเที่ยวและซิมการ์ด 
เชื่อว่าทุกคนเวลาเสิร์ชหาข้อมูลเที่ยวฮ่องกงเจ้าแรกที่เจอเลยคือ ฮ่องกงแฟนคลับ
เป็นที่ที่มีบัตรครบแทบทุกอย่างหาซื้อได้จากที่นี่ที่เดียว บัตรเข้าสวนสนุก รถไฟ รถราง ซิมการ์ด ซึ่งซื้อไปก่อนสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องไปงงเอาที่นู่น หรือจะไปเจ้าอื่น ๆ เช่น ว้าวฮ่องกง หรือ ตระกูลเฉิน ก็ลองศึกษาข้อมูลดูเอาที่เหมาะกับตัวเองเรื่องวันเวลาการรับของอะไรแบบนี้  ถ้าใครไปขึ้นเครื่องสุวรรณภูมิไปซื้อที่เคาท์เตอร์ตรงทางเข้ารถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ได้ (ชั้น B) เปิดทุกวันตั้งแต่ 06:00 - 20:00 น. (ตอนไปมาเก๊าซื้อจากตรงนี้) ซิมการ์ดเลือกเอาตามความเหมาะสมของตัวเองเลย ถ้าไปซื้อที่งานท่องเที่ยวจะดีมากเพราะถูกและมีให้เลือกเยอะ
Discover Hong Kong Tourist SIM Card ซิมสำหรับนักท่องเที่ยวที่โปรโมทโดยการท่องเที่ยวฮ่องกง มี 2 ราคา HK$88 สำหรับ 5 วัน และ HK$118: สำหรับ 8 วัน สามารถใช้ได้ครอบคลุมอีก 3 ประเทศ จีน มาเก๊า และไต้หวัน ใช้เนตได้ไม่อั้น

Sim2Fly ซิมตัวนี้เชื่อว่าเป็นซิมที่คิดมาแล้วเพราะช่วงหลังนี้คนนิยมเช่า Pocket Wi-Fi เวลาไปต่างประเทศเพราะราคาถูกกว่าเปิดโรมมิ่ง ซิมตัวนี้เมื่อคิดราคาเทียบกันถ้าไปคนเดียวราคาจะไม่ต่างจาก Pocket Wi-fi อีกอย่างที่อยากให้ลองศึกษา i-Sim เป็น Sim card ที่ใช้เล่นเน็ทฟรีโทรฟรีที่ฮ่องกง เคยอ่านเจอจาก กระทู้ Pantip ยังไม่มีโอกาสได้ลอง ดูรายละเอียดคร่าวๆ ดูเข้าท่าดี




ส่วนตัวตอนนั้นที่ไปใช้ตัวนี้ One2Free ราคากำลังพอดี ไปไม่กี่วันใช้ได้เหลือๆ ซื้อตอนงานเที่ยวไทยไปทั่วโลกราคาก็จะดีกว่าช่วงซื้อปกติ
แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโทรกลับหรือรับสายจากเมืองไทย (เท่าที่จำได้โทรกลับ นาทีละประมาณ 70 บาท รับสายเสียครึ่งหนึ่งคือ 35 บาท ) ที่ฮ่องกงหลายโรงแรมจะมีโทรศัพท์มือถือในห้องที่เป็นไกด์นำเที่ยวและโทรหากันฟรีแบบกดเลขห้องโทรหาได้เลย และ Free wi-fi ก็มีทั่วประเทศ ยิ่งไปตอน Summer Sale เขาจะแจก Wifi ให้ใช้ 7 วัน ลองหาข้อมูลก่อนไปดูบางทีเราอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อซิมการ์ดก็ได้

Application
หลายคนที่เที่ยวด้วยตัวเอง อาจจะมีหนังสือเป็นคัมภีร์ หรือปรินท์รีวิวมาติดตัว ที่ขาดไม่ได้คือพวก App ตัวช่วยในการเดินทาง อย่างแรกคือ App ของประเทศเจ้าบ้าน อย่างให้ลองเข้าไปดูในเว็บของการท่องเที่ยวฮ่องกง Discover Hongkong เขาจะแนะนำ app ที่ควรโหลดไว้เช่น

My Hong Kong Guide : ตามตัวเลยคือไกด์พาเที่ยวฮ่องกง แล้วก็จะมีพวก E-Coupon ต่าง ๆ ยิ่งถ้าไปช่วง HK Summer Sale ก็จะมีคูปองรถบัส รถชมเมือง ร้านค้า ร้านอาหาร แล้วก็พวกเบอร์ฉุกเฉิน App พื้นฐานมีไว้ไม่เสียหาย 



MTR Mobile / MTR Tourist : การเดินทางหลัก ๆ จะใช้รถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งหลักการทำงานก็ให้กรอกสถานีต้นทาง และสถานีปลายทาง แอปก็จะคำนวนระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่ายมาให้ครบ ส่วนตัวจะเอาไว้เปิดเชคด้วยว่าตอนนี้เหลืออีกกี่สถานีที่จะต้องลงก็จะฟังเสียงในรถไฟใต้ดินเทียบกับชื่อสถานีที่บอกในแอป





HKeTransport : การเดินทางอื่น ๆ รถบัส เรือเฟอร์รี่ รถรางต่างๆ เชคได้จากแอปนี้

Toilet Rush : อันนี้สำหรับข้าพเจ้าที่ท้องไส้ไม่ปกติจะพลาดไม่ได้เลยซึ่งแอปนี้มันจะบอกห้องน้ำฟรีที่เราเดินไปได้ใกล้ที่สุด และคนที่เขาใช้แอปนี้เขาก็จะแชร์เพิ่มเติมด้วยว่ามีตรงไหนที่ใช้ได้อีกบ้าง

เตรียมเสื้อผ้าไปฮ่องกง
ช่วงหน้าหนาวของฮ่องกง (ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) ต่ำสุดก็จะอยู่ที่ 10-20 องศา นอกนั้นอากาศก็ไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ใส่เสื้อผ้าแบบบ้านเราได้ไม่ต้องเตรียมไปเยอะไปช้อปที่นู่นเลย ฮ่าๆๆ ที่ควรระวังคือฝนมากกว่าเพราะฉะนั้นเชคอากาศก่อน ง่ายที่สุดคือ Google ผู้รู้ทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้


ปลั๊กไฟ
ควรเตรียม Adapture ไปค่ะ ส่วนใหญ่ในฮ่องกงจะเป็นปลั๊กสามตาหัวแบน เอาสามตาไปเผื่อก็ดีเพราะอุปกรณ์ที่ต้องชาร์ทไม่น่าพอกับปลั๊กที่โรงแรมมี เท่าที่เจอมาบ้านเมืองนี้เขาประหยัดปลั๊กเหลือเกิน หรือจะไปซื้อตามมินิมาร์ทที่นู่นก็ได้ แต่ถ้าเที่ยวบ่อยเราควรมีแบบ Universal Adapter Plug ติดไว้จริง ๆ



บัตร Octopus Card


Octopus Card แบบธรรมดา
บัตรออคโตพุสมีขายตาม 7-11, Circle K ตามสถานีต่าง ๆ ไปฮ่องกงต้องมีบัตรนี้ เหมือนในหลายๆ ประเทศ ที่ใช้แทนเงินสด สำหรับซื้อของ ร้านค้า ร้านอาหาร ขึ้นรถสาธารณะต่างๆ ซึ่งจะมีส่วนลดพิเศษด้วย บัตรแบบธรรมดาจะมีมัดจำ 50 HKD ถ้าคืนบัตรก็ได้เงิน


Octopus Card แบบขายขาด











ทุกประเทศที่มีบัตรแบบนี้ก็จะคล้าย ๆ กันคือมีบัตรแบบพิเศษแบบขายขาดแลกเงินคืนไม่ได้ ที่จะมีความน่ารักมุ้งมิ้งเพิ่มเข้าไปอีก อย่างบัตร T-Money เกาหลีก็จะมีทั้งแบบการ์ตูนแล้วก็ศิลปินใช่มะ ที่นี่ก็มีเหมือนกัน แต่เน้นไปทางการ์ตูนมากกว่าราคาก็แพงกว่าเยอะ อยู่ที่ 188 HKD แต่เห็นว่าขายแบบออนไลน์เท่านั้นนะ แบบพวงกุญแจธรรมดา 85 HKD ส่วนลาย Tourist ไว้ให้นักท่องเที่ยวเอากลับไปเป็นที่ระลึกแล้วก็กลับมาใช้ใหม่ได้ อยู่ที่ 39 HKD อันนี้หาได้ตาม 7-11

เว็บไซต์ของ Octopus card : http://www.octopus.com.hk

HONGKONG Lost & Found : ฮ่องกงหลงๆ ลืมๆ
HONGKONG Lost & Found : ตอนที่ 1 เตรียมตัวเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง
HONGKONG Lost & Found : ตอนที่ 2 ลืมของที่สนามบินฮ่องกงต้องทำยังไงนะ?
HONGKONG Lost & Found : ตอนที่ 3 Mini Hotel Central [REVIEW] 
HONGKONG Lost & Found : ตอนที่ 4 ไปหลงฮ่องกงด้วยกันเถอะ
HONGKONG Lost & Found : ตอนที่ 5 ฝากกระเป๋าที่ฮ่องกง
HONGKONG Lost & Found : ตอนที่ 6 เที่ยววันนี้ไม่หลงแล้ว  
 

0 Comments