Translate

Sponsor

เที่ยวมัณฑะเลย์ 24 ชั่วโมง (Mandalay 24 Hrs)




"มัณฑะเลย์หลงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม"

จุดเริ่มต้นของทริปนี้มันช่าง “เบ๊อะ” สิ้นดี
เห็นใช้แต้ม Big แค่ 1350 แต้มบินไปพม่าได้ เลยวางแพลนจะไปไหว้เทพทันใจ เจดีย์ชเวดากองที่พม่าเพื่อความสบายใจสักหน่อย เอาแค่ทริปสั้น ๆ 1 วันก็พอ จองวันนี้มะรืนบินเลย
แต่ไปคนเดียวไม่ดี ถามเพื่อนทุกคนที่เคยไปบอกไปคนไม่ได้มันน่ากลัว ต้องมีเหยื่อไปกับเรา!!!
โทรหาเพื่อนล๊อคคิวเสร็จสรรพ ใช้แต้มเปย์ให้เพื่อนด้วย
แต่สุดท้าย ท้ายสุดจนจองตั๋วเสร็จถึงนึกขึ้นได้ว่า 
เรากดจองไปมัณฑะเลย์นี่หว่า มันต้องกดไปย่างกุ้งโว้ยยย
ตั้งสติแปป... มัณฑะเลย์มีอะไรเที่ยววะ
Google ข้อมูลพอได้แล้วก็จัดไปค่ะ... อย่าได้กลัว 😉

💲สรุปค่าใช้จ่าย💲
💲รวม 3,117‬ บาท ต่อคน ไม่รวมค่าอาหาร💲

✈ค่าเครื่องบิน ใช้แต้ม Air Asia Big 7XXX แต้ม + 3309.62 บาท หาร 2 คน = 1,654.5 บาท

  รายละเอียด
Taxes and fees ที่ใช้แต้มจ่ายแทนเงินสดได้
Airport Tax1400.00 THB
Advance Passenger Facilitation Charge440.00 THB
Advance Passenger Processing Service140.00 THB
International Arrival and Departure Fees (Thailand)60.00 THB
Passenger Service Fee1420.00 THB

ค่าที่นั่งใช้แต้ม Big 1350 แต้ม ต่อคน
 
= 3460 บาท ใช้แต้มหมดตัวประมาณ 7XXX แต้ม เหลือที่ต้องจ่าย 3309.62 THB

🏨ค่าโรงแรม 324 บาท หาร 2 คน = 162 บาท
📱ค่า Sim 2500 MMK
🚕ค่าแท็กซี่สนามบินไปโรงแรม 15000 MMK
🎫ค่าเข้าสถานที่สำคัญ (ใช้ได้ 5 วัน) 20000 MMK
📷ค่าทำเนียมถ่ายรูปวัดซูตอง 2000 MMK
🚐ค่ารถเช่าวันที่ 1 25000 MMK
📷ค่าถ่ายรูปวัดพระมหามัยมุนี 2000 MMK
🚐ค่ารถเช้าวันที่ 2 ไปสนามบิน 65000 MMK

💲129000 MMK = 2600 หาร 2 คน = 1300 บาท💲
💱ค่าเงิน 50 MMK (จ๊าตพม่า) = ประมาณ 1 บาท  

คราวนี้นับถอยหลัง 24 ชม. สำหรับทริปมัณฑะเลย์ได้เลย

มิงกาลาบา... พม่าจ๋าพี่มาแล้ว



ถึงสนามบินแบบหวุดหวิดเพราะดูเวลา Check in ผิด เอาสิทริปนี้มันจะฉุกละหุกวุ่นวายอะไรตั้งแต่ยังไม่เริ่มขนาดนี้
สุดท้ายเราก็บินมาถึงที่ มัณฑะเลย์แล้ว






มองจากบนเครื่องบินบ้านเมืองเขาสีเขียวสบายตามาก เห็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ใหญ่ เล็ก กระจายอยู่ทุกพื้นที่ เป็นดินแดนที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาแรงกล้าจริง ๆ





ถึงสนามบินมัณฑะเลย์แล้ว สนามบินที่นี่ไม่มี wi-fi นะจ้ะ อยากใช้ด่วนใช้ไว แลกเงินซื้อ Sim Card เปลี่ยนเลยจ้า
ร้าน Sim ที่สนามบินที่เห็นอยู่ จะมีอยู่ 3 Brand ให้เลือก Ooredoo / Mytel / telenor
อ่านจากรีวิวคนอื่น ๆ Ooredoo เน็ทจะเร็วสุด แต่ถ้าโทรกลับไป telenor จะถูกสุดเพราะเป็นเครือข่ายเดียวกับ DTAC บ้านเรา 



เราเน้นใช้ Net และอยู่แค่ 1 วันเลยเลือก Ooredoo 1GB ราคา 2500 MMK ประมาณ 50 บาท
นับว่าเร็วอยู่ ใช้เรียก Grab อัพรูป แล้วก็เผื่อโทรหาคนขับ นับว่าพอดีไม่เติมเงินเพิ่ม


 


ส่วนบูธแลกเงินที่นี่ก็มีหลายเจ้าแต่เรทแทบจะเท่ากันหมดนะ จะใช้เงินดอลลาร์หรือเงินไทยแลกก็ได้
ของเรา เราแลกเป็นเงินดอลลาร์ที่ไทย แล้วก็เอาเงินดอลลาร์มาแลกเงินจ๊าตที่นี่
สำหรับเราแลกแค่พออยู่วันเดียว ไม่มีผลอะไรมากมายอยู่แล้วเพราะน้อยนิดเหลือเกิน
แลกไป 3000 บาท ก็ได้ประมาณ 140,000 MMK



🚕การเดินทางเข้าเมืองมัณฑะเลย์จากสนามบิน🚕

สนามบินมัณฑะเลย์อยู่ห่างจากเมืองประมาณ 40 กม. การเดินเข้าเมืองก็จะมีอยู่ 2 วิธี

🚕 Taxi 🚕

มีบูธรถ Taxi อยู่ทางขวามือของทางออก เราก็เดินไปซื้อคูปองบอกชื่อโรงแรมของเราได้ ซึ่งราคาจะเป็นราคาเดียวทุกระยะทาง แตกต่างตามขนาดรถ

5,000 MMK ($10USD) - ต่อคน สำหรับแชร์กับคนอื่น
15,000 MMK ($12USD) - ราคาเหมานั่งได้ 3 คน
28,000 MMK ($16USD) - ราคาเหมานั่งได้ 7 คน

จ่ายเงินด้วยเงินสดเท่านั้น
รถ Taxi จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงตัวเมืองมัณฑะเลย์

🚌 รถบัส 🚌

มีบูธจองรถบัสอยู่ตรงกลางของสนามบิน มีให้จองตั๋วไปทุกที่ทั่วประเทศเลยนะ
ค่ารถบัสเข้าเมืองอยู่ที่ 4000 MMK ($4USD)
รถบัสจะไปจอดที่หน้าโรงแรม ลองบอกพิกัดเขาไป
แต่รถบัสจะช้ามาก เพราะจะรอคนจนกว่าจะเต็ม และจอดรับส่งระหว่างทาง
เวลาที่ใช้เดินทางก็จะประมาณ 1.5-2ชม.
ใครไม่รีบเชิญรถบัสเลยจ้า
จ่ายเฉพาะเงินสดเท่านั้นนะจ้ะ

🚕 GRAB 🚕
GRAB TAXI / GRAB CAR เรทอาจจะแพงกว่าหน่อยแต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนะ สามารถตัดบัตรเครดิตได้



บ้านไกลเวลาน้อยจ่ายไป 15,000 MMK พอจ่ายเงินเสร็จก็จะมีคนพาไปขึ้นรถ แล้วเขาก็จะไม่ไปจนกว่าเราจะให้ทิปส์
ซึ่งเคยอ่านเจอเขาบอกเป็นธรรมเนียมที่นี่ต้องให้ทุกที่ แล้วแต่จะให้
รถ Taxi ไม่ได้ใหม่มากแต่แอร์เย็นมาก ภาษาอังกฤษของคนขับเป็น 0 นะจ้ะ



มีเพิงขายผลไม้ มะม่วง แก้วมังกร และอื่น ๆ ดูลูกใหญ่น่ากินมาก





ถึงตัวเมืองแล้ว... แล้วจะบอกเลยว่าคนที่นี่ขับรถค่อนข้างช้านะ เพราะถึงถนนโล่งเขาก็จะเหยียบอยู่ที่ 60 กม./ชม. ส่วนในเมืองจะจำกัดแค่ 40 กม./ชม. เลยจะช้า ๆ หน่อย เวลาที่มาถึงโรงแรมก็เกือบ 1 ชม. ได้

🏨 HOTEL BOSS 🏨
จองผ่าน Booking.com ค่าโรงแรม 324 บาท หาร 2 คน = 162 บาท ต่อคน

ภาพตรงปกมาก นับว่าคุ้มกับราคา 300 นิด ๆ สะอาด และ แอร์เย็นมาก
มีมินิบาร์ มีน้ำเปล่าให้ 2 ขวด กาแฟชงฟรี แต่น้ำอัดลมเบียร์ในตู้เย็นต้องจ่ายเพิ่ม แต่ราคาก็ถือว่าปกติ นะ

ที่พักใกล้มินิมาร์ท ร้านอาหารท้องถิ่น โดยเฉพาะที่เปิดตอนกลางคืนจะเยอะมาก เดินไปตลาด Zegyo ประมาณ 10 นาที


Credit : www.booking.com/hotel/mm/boss-mandalay


Credit : www.booking.com/hotel/mm/boss-mandalay


Credit : www.booking.com/hotel/mm/boss-mandalay


Credit : www.booking.com/hotel/mm/boss-mandalay


Credit : www.booking.com/hotel/mm/boss-mandalay
พักวางกระเป๋า แล้วขึ้นไปห้องอาหารที่อยู่บนชั้นดาดฟ้า กินข้าวเอาแรงก่อนเริ่มเที่ยว แต่ขอบอกว่าที่นี่ทำอาหารช้ามากนะ บ้านไกลเวลาน้อยเสียเวลาเที่ยวมาก จริง ๆ 😂


ต้มยำ


ไก่ทอดแบบไทย ๆ
มื้อแรกสั่งสิ่งที่คุ้นเคยนั่นคือต้มยำและไก่ทอดที่เขาเขียนระบุว่า Deep Fried Chicken in Thai Style เราก็สงสัยไง ไก่ทอดแบบไทยเป็นยังไงหว่า พอเห็นหน้าตาและชิมรสชาติแล้ว มันคือ "ไก่ทอดชิ้นละบาทหน้าโรงเรียน" กับข้าวจานจะ 60 - 120 บาทก็ไม่ถือว่าแพงมากนะ ที่สำคัญคือให้เยอะมาก

กินข้าวเสร็จที่แรกที่จะไปคือ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) ไม่ไกลจากที่พัก รู้สึกดีใจที่มัณฑะเลย์มี Grab เพราะภาษาอังกฤษเราก็งู ๆ ปลา ๆ พนักงานที่โรงแรมพูดภาษาอังกฤษได้ก็พูดแบบไม่แคร์เราเลยว่าเราเข้าใจมากน้อยขนาดไหน เลยว่าส่วนคนพม่าบางคนก็ไม่พูดอังกฤษเอาซะเลย GRAB คือคำตอบที่ดีที่สุดไม่ต้องพูดกันแต่จุดหมายชัดเจน


🚕 GRAB IN MANDALAY 🚕

เอาละ GRAB ควรให้ยกตำแหน่งสมาชิกระดับ Diamond ให้ฉันเพราะฉันใช้มันทุกที่จริง ๆ
ที่มัณฑะเลย์ GRAB มีให้บริการอยู่ 4 อย่าง TAXI, Thonebane (ตุ๊ก ๆ), มอเตอร์ไซค์ และรถเช่ารายชั่วโมง



สำหรับรถเช่าพร้อมคนขับรายชั่วโมง พออ่านรายละเอียดก็คือเช่า 1 วัน 100,000 MMK เวลา 15 ชม. จะไปที่ไหน เมืองไหนก็ได้ เกินเวลานั้นต้องจ่ายเพิ่มให้คนขับชม.ละ 50,000 MMK




ถ้าเที่ยวเฉพาะในเมืองนั้นก็ราคาตามที่ระบุไว้ 15 ชม. เหมือนกัน
ตามที่ระบุก็จะมี สะกาย, อังวะ, พินอูลวิน หรือคนทั่วไปเรียกกันว่า เมเมียว (Maymyo)

ประเดิมที่แรกใช้ GRAB ไปพระราชวังมัณฑะเลย์กันค่ะ เรียกตุ๊ก ๆ ไปเพราะเดี๋ยวจะไม่ได้สัมผัสรถ Local ของที่นี่ เหมือนบ้านเราที่ฝรั่งเขามาก็ต้องนั่งตุ๊ก ๆ อ่ะเนาะ ราคาอยู่ที่ 2700 MMK ประมาณ 55 บาท รอรถไม่นานเลย ทิปส์ไปนิดหน่อย







พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace)
เปิดทำการตั้งแต่ 07.30 – 16.30 น.

ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 10 นาที จากโรงแรมก็มาถึงบริเวณทางเข้า แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาแนะนำตัว ช่วยแนะนำสถานที่ เขาบอกให้เรียกเขาว่า "Mr. Take it easy" เพราะว่าชื่อเขาคนต่างชาติเรียกยาก เขาเป็นคนให้บริการเช่ารถซึ่งกำลังจะมาเชิญชวนเราเป็นลูกค้า และเขาก็ทำสำเร็จค่ะ คือเขาช่วยแนะนำว่ามาถึงที่นี่ต้องไปซื้อบัตรเข้าชมก่อน ต้องลงทะเบียนเขียนชื่อโรงแรม แล้วก็ต้องเดินเข้าไปด้านในซึ่งค่อนข้างใช้เวลา แล้วเรามาถึงเกือบ 4 โมงเย็นแล้วและพระราชวังก็ใกล้ปิดแล้ว เขาเลยชวนใช้บริการรถเขาเข้าไปส่งด้านเราและรับกลับซึ่งเราก็โอเค มีเหตุผล 

🎫 การซื้อบัตรเข้าชม 🎫

สถานที่สำคัญต่าง ๆ ในเมืองมัณฑะเลย์มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมที่เรียกว่า Mandalay Archaeological Zone ticket ราคา 10,000 MMK สามารถใช้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมัณฑะเลย์ ตามที่ป้ายระบุไว้ บัตรสามารถใช้ได้ 5 วัน และสถานที่ 1 ใบต่อ 1 ครั้ง


Mandalay Archaeological Zone ticket ราคา 10,000 MMK


สถานที่ซื้อบัตรเข้าชม


สถานที่ที่สามารถใช้บัตรเข้าชมได้

นั่งรถเข้ามาถึงด้านใน ถ้าเดินมาก็ไกลอย่างที่เขาว่าจริง ๆ ยื่นบัตรให้ที่หน้าประตู แต่งกายให้ถูกระเบียบ





" พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace)" จริง ๆ คนไทยน่าจะคุ้นเคยผ่านละครอิงประวัติศาสตร์หลาย ๆ เรื่อง เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวของพระนางศุภยาลัต พระราชินีในพระเจ้าธีบอพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งพม่า ความทะเยอทะยาน ความอิจฉาริษยา ความอำมหิต ของพระนาง ถูกเล่าต่อกันมา ถูกดัดแปลงเป็นละครหลังข่าวเรตติ้งแรงอย่าง เพลิงพระนาง ที่เดแปลงเรื่องราวเล่าผ่านรุ่นลูกของเจ้านางอนัญทิพย์ รวมถึง หม่องหม่อง และ ซูซู ในรากนครา ซึ่งพี่อั้ม พัชราเล่นทั้ง 2 เรื่องเลย









ตามที่อ่านพระราชวังมัณฑะเลย์ สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ภายในสร้างเป็นหมู่พระตำหนักและท้องพระโรงยอดปราสาททอง รอบนอกขุดคูน้ำกว้างใหญ่และกำแพงสูงรายล้อมรอบด้านละ 2 กิโลเมตร กล่าวกันว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่าที่มีความวิจิตรและมีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย แต่ก็มีพิธีหลอน ๆ ที่ไม่ต่างจากไทยสมัยก่อนที่มีการนำคนเป็น ๆ คนมาฝังตามมุมเมือง ประตูเมือง ประตูพระราชวัง จุดที่สำคัญอย่างพระที่นั่งในท้องพระโรงก็ฝั่งคนเป็น ๆ 4 คน ตามมุม ด้วยความเชื่อที่วิญญาณเหล่านี้จะคอยเฝ้า และ ดูแลเมือง อย่างถ้าเป็นของไทยสมัยก่อนของเราก็ต้องมีชื่อที่เป็นมงคล อย่าง อิน จัน มั่น คง อยู่ ดี มี สุข ด้วย







มีผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนพม่า ไฮไลท์ของที่นี่มีอยู่ประมาณ 4 จุดคือ รูปปั้นพระเจ้ามินดงและพระมเหสีด้านหน้า, รูปปั้นพระนางศุภยาลัตและพระเจ้าธีบอภายในท้องพระโรง, หอคอยที่เล่นเอาหอบกว่าจะได้เห็นพระราชวังมุมสูง และพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ด้านหลังสุดของพระราชวัง


คุณเพื่อนผู้เป็นเหยื่อในการเดินทางของข้าพเจ้า








 









พระราชวังมัณฑะเลย์สวย แต่ยังรู้สึกขาดชีวิตชีวาไม่เหมือนสถานที่สำคัญในบ้านเรา น่าจะการดูแลปรับปรุงสถานที่ การเล่าเรื่องราวให้เราเข้าใจและอินไปกับประวัติศาสตร์และเห็นภาพในอดีตได้ชัดขึ้น เชื่อว่าขนาดละครบ้านเรายังจำลองออกมาได้สวยขนาดนี้ อนาคตข้างหน้าถ้าพม่ามีการปรับปรุงและพัฒนามากขึ้น อาจจะดูแลปรับปรุงที่นี่ให้มีชีวิตมากขึ้นกว่านี้และเราจะกลับมาเยี่ยมอีกครั้ง

บ้านไกลเวลาน้อยคุณ Mr. Take it easy อาสาพาเราเที่ยวต่อซึ่งไม่ต่างจากที่คาด ลองเปิด Grab คำนวนราคาความคุ้มค่าแล้วนับว่าโอเค แล้วก็สะดวกไม่ต้องรอด้วย Mr. Take it easy ค่อนข้างสุภาพ เข้าใจนักท่องเที่ยว ภาษาดี และไม่คะยั้นคะยอจนเราอึดอัด ใครมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้ติดต่อแกได้เลย ต่อราคากับแกไ้ด้นะ แต่เราสายเปย์มาก ไม่ต่อเลยให้ ทิปส์ด้วย 😂

ก่อนจะออกจากพระราชวัง Mr. Take it easy พาเราขับรถดูบรรยากาศรอบ ๆ พระราชวังมัณฑะเลย์ จากนั้นเราก็ไป Mandalay Hills ต่อ


MANDALAY HILLS : SU TAUNG PYAI PAGODA
เปิดทำการตั้งแต่ 08.00 – 21.00 น.



ส่วนมากคนจะนิยมมาช่วงเย็นเพื่อดูพระอาทิตย์ตกลงกลางแม่น้ำ ชมวิวเมืองมัณฑะเลย์จากมุมสูงที่มองได้ทั้งฝั่งที่เป็นเมืองและฝั่งที่เป็นแม่น้ำ จากที่ดูแผนที่ใน Grab เราสามารถให้เขามาส่งได้ 2 จุดคือด้านหน้าที่เป็นบันได้แล้วเดินขึ้นไป หรือให้ไปส่งตรงด้านหน้าประตูเลยก็ได้ ส่วนวัยรุ่นอย่างเรา ไม่มีทางเดินขึ้นบันไดเป็นร้อยขั้นแน่นอน

Mr. Take it easy เขาก็จะถามตลอดทางนะว่าอยากแวะถ่ายรูปตรงไหนก่อนไหมเพราะใกล้ปิดแล้ว เพราะระหว่างทางเราจะผ่านที่ท่องเที่ยวค่อนข้างหลายที่ อยากถ่ายภาพตรงไหนเขาจอดให้ถ่ายตลอด


ภาพนี้ Mr. Take it easy ถ่ายให้


กลัวพี่เขาจะโดนชนมาก

เมื่อมาถึง Mr. Take it easy แนะนำให้เราขี้นบันไดเลื่อนเพื่อฝากลองเท้าก่อน ค่อยลงลิฟท์ตอนขาลง เห็นทางบันไดเลื่อนแล้วแอบน่ากลัว เวลาฝากรองเท้าจะมีคนเฝ้าอยู่ เขาจะบอกว่าต้องให้ทิปส์เขาด้วยนะคะ เท่าไหร่ก็ได้










สถานที่ท่องเที่ยวทุกที่ต้องจ่ายค่าเข้า ค่าถ่ายภาพทุกที่ ที่ละ 1000 MMK จริง ๆ ที่นี่เราก็ใช้บัตรได้นะ พอจ่ายไปแล้วถึงนึกขึ้นได้ ช่างเถอะถือว่าทำบุญให้วัด










 วิวที่มองเห็นจากด้านบนแต่ละด้านสวยไม่เหมือนกันจริง ๆ










ความมือบอนมีอยู่ทุกที่น่าตีมือจริง ๆ

คุณพระที่นี่ชอบคุยกับชาวต่างชาตินะ

สงสัยคุณแม่จะบอกว่า "แม่รักลูกเท่าฟ้า"






ขากลับลงลิฟท์สบาย ๆ สถานที่ต่อไปตอนแรก Mr. Take it easy พาแวะไปที่ วัดชเวนันดอว์ แต่ปิดแล้วเสียดายจัง เสียดายในความพยายามของเขา เลยไปต่อที่ Kuthodaw Pagoda หรือคนไทยส่วนใหญ่เรียกว่า “วัดกุโสดอร์”


วัดกุโสดอร์ : Kuthodaw Pagoda
เปิดทำการตั้งแต่ 08.00 – 20.00 น.


จุดเด่นของที่นี่คือเจดีย์สีขาวที่อยู่รอบ ๆ วัด ซึ่งสร้างครอบ “หนังสือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” ซึ่งเป็นแผ่นหินอ่อนขนาดใหญ่จำนวน 729 แผ่น ที่มีการจารึกข้อความทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ จากการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 ในพม่า ในสมัยพระเจ้ามินดง
















ชอบความขาวของเจดีย์ ขอชักภาพถี่หน่อย
ในวัดนี้มีแม่ค้าเยอะมาก ขายดอกไม้ ขายโปสการ์ด ขายแป้ง ขายระฆัง ขายหยก บางคนตี๊อมาก ไม่ซื้อมีงอนใส่ด้วย เห็นแม่ค้ารอยดอกไม้สงสัยว่าดอกอะไร สรุปว่าเป็นดอกของต้นไม้ในวัดมาร้อยเสียบไม้ ให้ไปถวายพระ










ราคา 500 MMK





พอออกจากวัดสักพักฝนก็ตกหนักตอนแรกวางว่าจะไปตลาด Zegyo ต่อ เลยต้องยกเลิกไป

🚐 สรุปค่ารถรอบนี้ Mr. Take it easy คิดไป 25000 MMK 🚐



เรานัด Mr. Take it easy มารับตอนตี 3.45 น. เพื่อไป วัดพระมหามัยมุนี, สะพานอูเบ็ง และโจทย์ยากของ Mr. Take it easy คือ วัดพระมหาเถรคันฉ่อง ซึ่งเขาไม่เคยรู้เลยว่ามีวัดนี้ในมัณฑะเลย์

นอนพักที่โรงแรมรอฝนหยุดแล้วเดี๋ยวออกไปหาอะไรกิน
ช่องทีวีที่นี้เขาซื้อละครไทยมาฉายด้วยละคร เสียงไทยซับพม่านะจ้ะ


แถวโรงแรม HOTEL BOSS ช่วงกลางคืนจะมีร้านอาหารริมทางมาเปิด เป็นคล้าย ๆ ข้าวราดแกง ที่มีแมลงทอดด้วย แล้วพวกของทอด หมูจุ่ม แล้วก็มีเส้นต้มคล้าย ๆ เฝอ ที่นี่เขาห่อกลับบ้านแบบใส่แค่ถุงหูหิ้ว ไม่มีใส่ถุงร้อนก่อน ไม่ทะลุด้วยว่ะ

มีคนเตือนว่าอย่าทานดีกว่าเพราะตอนที่เขาไปไกด์เตือนว่าไม่ชินเดี๋ยวจะท้องเสีย ส่วนตัวเรากินยากอยู่แล้วหาอาหารเด็ก ๆ กินดีกว่า








 

แต่สุดท้ายมากินที่ร้านอาหาร แต่เหมือนหลักเป็นร้านขายเบียร์มากกว่า พอนั่งที่โต๊ะ เขาก็จะเสิร์ฟซุป กับถั่วคั้่วให้ทุกคนเลย




สั่งกับข้าวมา 3 อย่าง ข้าวผัด หมึกทอด ไก่ทอดงา คิดผิดมาก เยอะทุกจานกินไม่หมดเลย เสียดายมาก




อีก 8 ชั่วโมงในมัณฑะเลย์
พระมหามัยมุนี (Mahamuni Buddha Image)
เปิดทำการตั้งแต่ 04.00 – 21.00 น.


ตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปดูพิธีล้างหน้าพระพักตร์ ที่วัดพระมหามัยมุนี Mr. Take it easy มารับตรงเวลาเป๊ะ! 3.45 น. เดินทางไปที่วัดค่ะ Mr. Take it easy บอกเราว่ามี 2 จุดที่คนนิยมนั่งดูด้านข้างและด้านหน้า แน่นอนเรานั่งด้านหน้า


 





กำลังเริ่มพิธีพอดีมีจอทีวีถ่ายทอดสดให้เห็นชัด ๆ ด้วยคนที่อยู่ด้านในได้จะเป็นผู้ชายเท่านั้น ระหว่างที่ทำพิธีก็จะได้ยินเสียงเหล่าแม่ชีสวดมนต์ตลอดพิธี



 สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาเก็บเงินค่าถ่ายรูป คนละ 1,000 MMK



จะมีคนนำผ้าขนหนูขึ้นไปถวายเพื่อเจ้าอาวาสใช้เช็ดพระพักตร์แล้วส่งกลับคืนมาเก็บไว้ เพื่อความเป็นสิริมงคล


 

ระหว่างพิธีก็จะมีสัญญานเจ้าหน้าที่บอกให้ไปต่อแถวเข้าคิว เพื่อนำน้ำล้างพระพักตร์กลับไปบูชาที่บ้าน ซึ่งอันนี้ไม่รู้มาก่อน คนที่รู้ก็จะนำขวดน้ำมากรอกกลับไป







จบพิธีออกมาร้านดอกไม้เปิดแล้ว เรามุ่งหน้าไปที่สะพานอูเบ็ง เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นต่อ เช็คเวลาจาก Google แล้วเราต้องไปก่อน 5.30 น. ถามว่าไปทันไหม ทันนะ แต่ฝนลงเม้ดเบา ๆ เมฆปกคลุมมองไม่เห็นพระอาทิตย์จ้า จริง ๆ ผู้คนนิยมมาที่นี่ช่วงเย็นมากกว่า ตอนพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็จะสวยมาก มีร้านค้าเปิดรองรับนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด 


สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge)

สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge) เป็นสะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก อยู่ที่เมืองอมรปุระ นึกภาพคิดว่าจะเหมือนสะพานสังขละที่จะมีคุณพระเดินบิณฑบาตรช่วงเช้า แต่มาไม่ยักเจอแฮะ คุณพระที่นี่ค่อนข้างชิลล์ ไม่ค่อยเคร่ง เดินเล่น คุยโทรศัพท์ออกกำลังกาย


 


คิดว่าจะเห็นคุณพระเดินเรียงแถวอุ้มบาตร แต่ไม่เห็นมี คุณพระที่นี่ดูชิลล์มาก

ตั้งแต่เดินลงจากรถก็มีน้องหมาเป็นไกด์กิตติมศักดิ์เดินตามตลอดทาง แล้วก็เจอคุณพระคนหนึ่งชวนคุยสักพักเลย ท่านชวนให้ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ในเมือง เล่าว่าชอบวัดที่ไป ต้องไปสอบการเปรียญที่ไทยทุกปีด้วยที่มหาจุฬาลงกรณ์วิทยาลัย




 










น้องหมาไม่ยอมไปไหนเลยต้องเจรจาขอถ่ายรูปเดียวกลางสะพานแปป



ที่เห็นจูงข้ามสะพานนั่นคือสะพานอีกอันที่น้ำท่วม จักยาน มอเตอร์ไซค์ต้องจูงผ่านเอา
Mr. Take it easy แนะนำร้านอาหารเช้าอร่อย ๆ แถวนั้นด้วยนะ แต่เราคิดว่าจะเซฟงบไปกินอาหารเช้าฟรีที่โรงแรมดีกว่า นัด Mr. Take it easy มารับอีกทีประมาณ 9 โมงเช้า


หอนาฬิกาสวยดี
อันนี้เหมือนเป็นแป้งทอด ใส่ไข่ ใส่ผัก
ตรงข้ามโรงแรมมีร้านปาท่องโก๋เปิด เป็นปาท่องโก๋ตัวยาว แป้งที่ใช้ไม่รู้แป้งอะไรเป็นสีออกเหลือง รสชาติก็แปลก แต่ก็กินได้ อร่อยดี เตาที่นี่ใช้เป็นเตาฟืนนะ คนที่นี่ยังใช้ฟืนหุงต้มอาหาร มีรถขนฟืนมาส่งตอนเช้าด้วย









ว่าด้วยอาหารเช้าโรงแรมกินไม่ได้เลย เพราะเป็นผักหมดเลยจ้า แต่เพื่อนว่าก็อร่อยดี ส่วนขนมปังเราว่ารสชาติแปลก หรือเพราะที่นี่เขาใช้แป้งเฉพาะของเขา ส่วนน้ำส้มยิ่งแปลกเหมือนส้มช้ำ ๆ เก่า ๆ หรือเป็นรสชาติเฉพาะของส้มบ้านเขาวะ



















Check - Out 9 โมงเช้า พร้อมเที่ยวที่สุดท้าย ก่อนขึ้นเครื่องกลับ




วัดพระมหาเถร : Maha Thein Twa Gyi (มหาเตงดอจี)

วัดมหาเถร อยู่ในเมืองสะกายต้องออกไปเกือบ 1 ชม. ได้
ถ้าใครขับรถไปเองต้องจ่ายค่าผ่านทางที่หน่อย ทั้งถนน ทั้งสะพาน เก็บค่าผ่านทางหมด
Mr. Take it easy บอกเขาก็ไม่เข้าใจว่าเก็บทำไม









วัดมหาเถร ไม่ได้เป็นที่ท่องเที่ยวหลัก หรือ ถูกระบุไว้ในแพลนการท่องเที่ยวเท่าไหร่ แล้ว Mr. Take it easy ก็หาใน Google ไม่เจอ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าชื่อพม่าสะกดยังไง เราบอกทางตาม Google เขาก็งง ต้องถามทางไปตลอดทาง แต่เขาก็พยายามไปถึงจนได้

"วัดมหาเถร" วัดไทยที่สร้างให้ "พระมหาเถรคันฉ่อง" ถ้าเคยดูตำนานสมเด็จพระนเรศวรคงจำได้ รับบทโดย สรพงษ์ ชาตรี





ถึงแล้วกำลังบูรณะใหม่ด้วย Mr. Take it easy แกเห็นว่าล๊อคแกเลยไปหาเจ้าอาวาส
ตอนแรกเราก็ไม่รู้เพื่อนบอกให้ไปหาเจ้าอาวาสก่อน ตอนแรกเราก็งง ไปทำไมวะ เราไม่อยากคุยกับพระ 
พอเดินไปเห็นคือ Mr. Take it easy แกไปขอกุญแจจากเจ้าอาวาส



บอกเลยว่า Exclusive สุด! ลูกศิษย์วัดบอกว่าเขาก็ไม่ค่อยรู้ประวัติศาสตร์เท่าไหร่ แต่คนไทยจะมาทำบุญบริจาคที่นี่บ่อยมาก เจ้าอาวาสเห็นวัดทรุดโทรมมากแล้วกลัวดูแลไม่ไหว เลยปิดไว้ เพราะมันเป็นศิลปะเก่าแก่ แล้วถ้าเสียหายไปไม่รู้จะบูรณะยังไง ฝีมือการก่อสร้างก็ช่างอยุธยาดั้งเดิม ตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นราชธานีน่ะ เจ้าอาวาสเลยจะเปิดให้เฉพาะคนที่ตั้งใจมาจริง ๆ เข้าไปกราบไหว้เท่านั้น โดยเฉพาะคนไทย











ลูกศิษย์วัดที่มาคุยด้วยเอาหนังสือช่างอยุธยาในเมืองพม่ารามัญมาให้ดู ในนั้นก็มีภาพวัดแห่งนี้ด้วย แล้วก็มีใบโบรชัวร์ที่คนไทยรวบรวมเงินกันทำบุญบริจาคสร้างกำแพงวัดใหม่ เพราะหน้าน้ำตัวกำแพงวัดโดนน้ำกัดเซาะจนกำแพงพังไปแล้ว ตอนนี้ก็กำลังบูรณะอยู่ แล้วเขาก็เอาหนังสือเยี่ยมมาให้เซ็นต์ มีแต่คนไทยเขียนจริง ๆ คุยกับเขาว่าคงเพราะหนักเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรดังมาก คนเลยตามมาศักการะพระมหาเถรคันฉ่องกัน









ไม่ผิดเลย ลายกระจังของไทยฝึกวาดมาแต่ละอ่อน ผุพังไม่ตามกาลเวลา ถ้าไม่นับลุกกรงกั้น กับกระเบื้องปูพื้นและผนัง อย่างอื่นก็แทบจะเป็นของดั้งเดิมทั้งหมดเลย



"ในหลวงของแผ่นดิน" ที่นี่คนวัดไทย ของคนไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ















ได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะ ขอบคุณ Mr. Take it easy ด้วยสำหรับทริปนี้ เรทค่ารถพอ ๆ กับ Grab แต่ยืดหยุ่นกว่า
ซึ้งใจในการหาทางมาวัดพระมหาเถรคันฉ่องจนได้ 😂

🚐 ค่ารถเที่ยว 3 เมืองตั้งแต่ ตี 4 ถึง เที่ยง รวมไปสนามบิน = 65000 MMK  🚐


Mr. Take it easy
รถของ Mr. Take it easy นั่งได้ 6 - 7 คน (แบบไม่มีสัมภาระนะ)
สภาพรถภาพนอกอาจจะดูไม่ใหม่นัก แต่แอร์เย็นมาก นั่งสบายดี บริการดีเยี่ยม
สนใจติดต่อได้ เบอร์ที่พม่า : 099-7656-6949

ถึงสนามบินแล้วแนะนำว่า ถ้าหิวทานข้างนอกง่ายกว่า เพราะข้างในคนเยอะมาก และอาหารรอขั้นต่ำ 30 นาที หรือจะกินมาม่าที่มินิมาร์ทด้านใน ก็ประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา อ่อ... ที่นี่ต้องโชว์ Boarding Pass ก่อนเข้า Gate ด้วยนะ


แลกเงินจ๊าตพม่าคืนที่สนามบินเลย


ร้านอาหารข้างนอก Gate


ที่ฝากกระเป๋าก็มีนะจ้ะ


ราคาฝากกระเป๋า



จบทริปมัณฑะเลย์แล้ว ถึงจะเริ่มต้นด้วยความหลง ๆ งง ๆ แต่ก็ถือเป็นอีกทริปที่ดีนะ เมืองนี้ไม่ได้น่ากลัว ไม่สกปรกเลย อาจจะมีรอยถมน้ำหมากบ้าง แต่ก็ไม่ได้เละเทะอย่างที่คิด ไม่เห็นถังขยะเกลื่อนกลาดข้างทาง 

ก่อนมาเพื่อนเล่าว่าตอนไปย่างกุ้งเด็กขอทานเยอะมาก ผู้คนดูน่ากลัว แต่ที่นี่ไม่มีเด็กขอทานเลยนะ คนก็ดูสบาย ๆ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น วัดวาสวย ยังมีอีกหลายที่ที่นี่ที่ยังไม่ได้ไป แต่เรื่องอาหารนี่ ถ้าจะมาใหม่ต้องทำการบ้านเรื่องร้านอาหารมามากกว่านี้หน่อย 😂

ขอบคุณ กวาง นริสา ที่ชวนปุ๊แลกเวรปั๊บ กลับมาต้องรีบบึ่งไปทำข่าวต่อเลย ขอบใจมาก 😀

0 Comments